14 กรกฎาคม 2555

จับตาเงินปอนด์

ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์...
เหล่านักเทรดชาวไทยเป็นเช่นไรกันบ้าง?
ใครที่เปิด sell ไว้ แล้วปิดกำไรได้ คงยิ้มแก้มปริ พอร์ตโตขึ้น
ขณะที่มวลขา buy ยังต้องตามสถานการณ์ต่อไปว่า ยูโรจะตื่นจากการจำศีลหรือไม่--

เมื่อวาน (13 ก.ค.) เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น ดูกราฟ GU แล้วแรงดีดไม่มีตกเลย
อาจเพราะว่า...
ภาพจาก tvrage.com
ประเทศอังกฤษได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกประจำปี ค.ศ. 2012 ครั้งที่ 30
(อังกฤษ: 2012 Summer Olympics) โดยจะจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน
ระหว่างวันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม ถึงวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2555
ซึ่งคาดว่าจะทำให้ประเทศอังกฤษมีรายได้มากถึง 100 ล้านกว่าปอนด์ก็ได้
หากถึงช่วงการแข่งขันโอลิมปิก แล้วเงินปอนด์เจ้าภาพอ่อนค่านี่ก็แย่เลย
นับจากนี้ไป น่าจับตาว่าเงินปอนด์จะมีแรงขึ้นไปถึง 1.5777 ไหม





ส่วนพี่ยูโรขวัญใจนักเทรดชาวไทยนั้น เมื่อคืนก็เด้งขึ้นมาให้เหล่านักรบขา buy ได้อุ่นใจนิด
เสืออย่างยูโรจะตื่นมาวิ่งไล่กวดขย้ำกระทิง หรือจะวิ่งหนีหมีลงไปสู่ก้นเหว
สัปดาห์หน้าคงมีคำตอบให้ปรากฏ ว่าหมดรอบลงหรือยัง

ต้องจับตา​การ​แก้ปัญหาหนี้ยุ​โรปว่าจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นได้หรือไม่ ​
รวมทั้งต้องรอฟัง​แถลง​การณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคอง​เกรสของประธาน​เฟด

ถ้าพิจารณาจากภาพรวมของกลุ่มยูโรโซนดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก
เมื่อมูดี้ส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีลง 2 อันดับจาก A3 เหลือ Baa2
ซึ่งเป็นผลกระทบจากการที่อิตาลีมีต้นทุนในการกู้ยืมสูงขึ้น และแนวโน้มเศรษฐกิจระยะสั้นของอิตาลีแย่ลง
กอปรกับการที่กรีซมีโอกาสจะออกจากยูโรโซนมากขึ้น ขณะภาคการธนาคารสเปนจะเสียความน่าเชื่อถือมากขึ้น
เหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดความวิตกเพิ่มขึ้นต่อวิกฤตหนี้ในภูมิภาคยุโรป
จึงยังเป็นปัจจัยเชิงลบที่ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของรัฐบาลในบางประเทศของยูโรโซน

ยังไงๆ ก็เทรดตามสัญญาณ "เทคนิเคิล" ไว้
เพื่อช่วยในการตัดสินใจเปิดออเดอร์ และหาราคาที่เหมาะสมในการลงทุน

ปิดท้ายด้วยเรื่องเทคนิเคิลของตลาดหุ้นสักเล็กน้อย
ผู้เล่นเทคนิเคิลจะต้องมีความเชื่อในปรัชญาหรือความคิดรวบยอดของการวิเคราะห์เทคนิเคิลเสียก่อน
ซึ่งเป็นสมมุติฐาน 3 ประการ ได้แก่
1. ตลาดหุ้นจะรับรู้ปัจจัยทุกๆ ปัจจัย (Market Action Descounts Everthing) หมายความว่า
นักวิเคราะห์เทคนิเคิลต้องเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
เช่น หากกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจและการเมืองดี คนที่จะมาลงทุนมากขึ้นย่อมส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้น
ตรงกันข้าม ถ้ามีปัจจัยพื้นฐานไม่ดีก็ทำให้ราคาหุ้นลดต่ำลง
2. ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวเป็นระบบและมีรูปแบบ สามารถคาดการณ์แนวโน้มได้ (Prices Move In Trend)
หมายถึงกราฟของราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น สะท้อนถึงราคาในอนาคตที่สามารถพยากรณ์แนวโน้มได้
หรือที่เรียกว่า "เป็นรอบของหุ้นนั้น ๆ"
3. หลักประวัติศาสตร์ที่เกิดซ้ำรอยเดิม (History Repeats Itself)
เป็นการอธิบายพฤติกรรมของคนเล่นหุ้นที่มีจำนวนเป็นแสนๆ คน
หรือจิตวิทยามวลชน (Mass Phychology) ที่เล่นหุ้น

.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น