โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นธนาคาร SEB ของสวีเดน
และหุ้นธนาคารดันสเกอ แบงก์ของเดนมาร์ก
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นขยับขึ้นได้ไม่มากนักเนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่อง
เศรษฐกิจสเปน และความกังวลเรื่องฤดูการรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง
มีข่าวคืบหน้าเรื่องกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ออกมาว่า
ศาลเยอรมันจะพิจารณาในวันที่ 12 ก.ย. ซึ่งทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น
แต่ส่งผลลบต่อทั้งยูโรโซนเพราะเยอรมันยังไม่สามารถใส่เงินเข้ากองทุนได้จนกว่าเรื่องจะเรียบร้อย
ทำให้ ESM ขาดกำลังในการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ชาติสมาชิกที่กำลังประสบปัญหา
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เผยว่า การที่ศาลเยอรมนีจะใช้เวลาหลายเดือน
ในการพิจารณาว่าการให้กองทุน ESM เข้าเพิ่มทุนธนาคารพาณิชย์และซื้อพันธบัตรในตลาดรองนั้น
ขัดต่อกฎหมายของเยอรมันหรือไม่ จะยังเป็นปัจจัยลบสำหรับประเทศสมาชิกยูโรโซนทั้งหมด
โดยนักวิเคราะห์ยังระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยเงินกู้ของ ESM
แก่ธนาคารของสเปนมีความเสี่ยงที่จะทำให้ตลาดการเงินยุโรปมีความผันผวนต่อไป
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ยังประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ 13 แห่งของอิตาลี
โดยมีสาเหตุมาจากประวัติด้านสินเชื่อที่อ่อนแอของรัฐบาลอิตาลี
มูดีส์กล่าวในแถลงการณ์ว่า
"นอกเหนือจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรของรัฐบาลแล้ว
ความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีที่ถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ Baa2 นั้น
ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นว่า
รัฐบาลอิตาลีอาจจะไม่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่ธนาคารที่ประสบปัญหาตึงตัวทางการเงินได้"
นายลูอิส เด กินดอส รมว.เศรษฐกิจสเปน กล่าวว่า
รัฐบาลต้องตัดสินใจที่ยากลำบากในระยะใกล้นี้เพื่อหนุนการขยายตัวในระยะกลางและระยะยาว
นายกินดอสยอมรับว่ามีความผิดพลาดในกระบวนการจัดตั้งสกุลเงินยูโร
แต่ก็แสดงความชื่นชมต่อการตัดสินใจล่าสุดของบรรดาผู้นำยุโรป
ที่เกี่ยวกับการจัดตั้งสหภาพการธนาคารและการคลังของประเทศสมาชิกในยุโรป
โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป
ได้เห็นพ้องกับการร้องขอของสเปนในการช่วยเหลือภาคธนาคาร
โดยคาดว่า...จะมีการบรรลุข้อตกลงกันภายในวันศุกร์นี้
และจะมีการจัดสรรเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 3.0 หมื่นล้านยูโรภายในสิ้นเดือนนี้
![]() |
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ( FED) |
ขณะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนการปราศรัยจาก นายเบน เบอร์นันเก้
ประธาน FED ที่จะมีขึ้นในวันอังคารและพุธนี้ (21:00 - Fed Chairman Bernanke Testifies)
โดยตลาดหวังว่าอาจจะมีการทำมาตรการผ่อนคลายนโยบายเชิงปริมาณ (QE)
จากตัวเลขที่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะตัวเลขด้านการจ้างงาน
และรายงานตัวเลขค้าปลีกเดือน มิ.ย. ต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก ทั้งร่วงติดต่อกันมา 3 เดือน
ดังนั้นคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐในช่วงค่ำนี้
จึงเป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสนใจ และอาจมีผลต่อตลาดเงิน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ วันอังคาร 17 ก.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิ.ย.,
ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือน มิ.ย.
และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ก.ค.
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น