23 กรกฎาคม 2555

ข่าวฟอเร็กซ์ 23 ก.ค.

สกุล​เงินยู​โร​ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาด้าน​การคลัง​และภาคธนาคารของประ​เทศกลุ่มยู​โร​โซน
โดยยู​โรร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้ง​แต่​เดือน พ.ย. 2543 ​ในกรอบบนของ 94 ​เยน ​
ใน​การซื้อขาย​เช้านี้ที่ตลาดปริวรรติ​เงินตรา​โต​เกียว จาก​ความวิตกกังวลครั้ง​ใหม่​เกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยู​โร​โซน
Spain

ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกและวิกฤติหนี้ยูโรโซนยังมีอยู่ต่อเนื่อง
หลังมีข่าวว่าเมืองวาเลนเซียได้ขอความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลสเปน
ทำให้สเปนอาจต้องขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศเพิ่มเติม
ซึ่งปัญหาในสเปนก่อให้เกิดความไม่แน่นอนรอบใหม่ให้กับตลาดเงินตลาดทุนโลก
โดยอีแกน โจนส์ ปรับลดอันดับเครดิตสเปนลงเหลือ CC+
นอกจากนี้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศไม่ยอมรับพันธบัตรรับาลของกรีซเป็นหลักประกัน

สัปดาห์นี้ จะมีการประกาศตัวเลข PMI ของหลายประเทศซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดด้วย
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอก็มีสิทธิที่จะหนุนแรงซื้อเก็งกำไรจากการคาดหวัง
เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ที่จะมีออกมา
โดยเฉพาะสัปดาห์หน้า (31 ก.ค.-1 ส.ค.) จะมีการประชุมเฟด
ซึ่งตลาดคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการ QE3 ยังมีอยู่
กระนั้น ก็มีมุมมองว่าสหรัฐฯ ยังน่าจะอยากเก็บกระสุนนัดสำคัญนี้ไว้
เพื่อรับมือกับความผันผวนในตลาดเงินที่อาจเกิดขึ้นในช่วง ส.ค.-ก.ย.
และจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการออกมาตรการดังกล่าวอาจอยู่ในช่วง ก.ย.-ต.ค.
ซึ่งจะเป็นช่วงก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน พ.ย.


***


นายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวกับหนังสือพิมพ์เยอรมนีฉบับหนึ่งว่า
เขาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของสเปนจะมีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากการดำเนินการปฏิรูป
โดยระบุว่าเศรษฐกิจของสเปนมีศักยภาพและมีโครงสร้างที่แตกต่างจากเศรษฐกิจของกรีซ
นายชอยเบิลระบุว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นต้นตอของปัญหาการเงินของสเปน
เช่นเดียวกันสหรัฐฯ และมีความแตกต่างจากปัญหาในกรีซ

นาย​โยชิฮิ​โกะ ​โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
และ นายมาซาอากิ ชิรากาวา ​ผู้ว่า​การธนาคารกลางญี่ปุ่น (บี​โอ​เจ)
ได้ประชุมร่วมกัน​ในช่วง​เช้าวันนี้ ​
เพื่อหารือกัน​เกี่ยวกับน​โยบาย​การ​เงิน​และ​แนวทาง​การกระตุ้น​การขยายตัวทาง​เศรษฐกิจ ​
โดยมี​เป้าหมายที่จะช่วย​ให้ญี่ปุ่นสามารถรับมือกับภาวะ​เงินฝืดภาย​ในประ​เทศได้

ขณะที่ นายจุน อาซูมิ รมว.คลังญี่ปุ่น ​เปิด​เผย​ในวันนี้ว่า
รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังจับตาดู​ความ​เคลื่อน​ไหว​ในตลาดปริวรรต​เงินตราอย่าง​ใกล้ชิด
​โดยย้ำว่าญี่ปุ่นจะ​ใช้ "มาตร​การขั้น​เด็ดขาด" ​ใน​การสกัด​การ​แข็งค่าของ​เงิน​เยน ​
ในขณะที่​เงิน​เยน​แข็งค่าขึ้นอย่างมาก​เมื่อ​เทียบกับสกุล​เงินยู​โร
"​การตอบสนองของผมที่มีต่อตลาดปริวรรต​เงินตรานั้น ​ไม่​เคย​เปลี่ยน​แปลง 
ผมมักจะพูด​เสมอว่า เราจะ​ใช้มาตร​การขั้น​เด็ดขาด​ใน​การต่อต้าน​การ​เ​ก็งกำ​ไรทุกรูป​แบบ ​
และป้องกัน​ไม่​ให้สกุล​เงิน​เยนผันผวนมากจน​เกิน​ไป"

***

มาตามเรื่อง "สเปน" กันแบบลึกๆ กัน โดยข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
 
สเปนส่อเค้าเงินไม่พอใช้จ่าย

ผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสเปนรอบล่าสุดที่น่าผิดหวัง ก่อให้เกิดข้อกังขาว่า
สเปนอาจจะไม่สามารถหาเงินทุนจากตลาดมาใช้จ่ายและใช้หนี้สำหรับปีนี้ได้เพียงพอ
จนต้องนำไปสู่การรับเงินช่วยเหลือจากยูโรโซนเพิ่มเติม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า
สเปนเปิดการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรอบล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (19 ก.ค.)
โดยสามารถระดมเงินได้เกือบ 3 พันล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนที่ประมูลออกไป
ทั้งพันธบัตรอายุ 2 ปี 5 ปี และ 10 ปี อยู่ในระดับที่เพิ่มสูงขึ้นจากการประมูลเมื่อเดือนก่อนอย่างถ้วนหน้า

เจมี เซียร์ลี นักยุทธศาสตร์จากซิตี้ กล่าวว่า
การประมูลพันธบัตรดังกล่าวไม่ใช่การประมูลที่ดีสำหรับสเปน
"เรามีข่าวด้านบวกในเรื่องของเงินช่วยเหลือภาคการธนาคาร และการที่รัฐบาล
ประกาศมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม แต่ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้ช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืนมา"

ซิตี้ประเมินว่าสเปนจะต้องออกพันธบัตรอีกครั้งละประมาณ 2,900 ล้านยูโรในการประมูลครั้งต่อๆ ไปเพื่อระดมเงินให้ได้ตามเป้าหมายตลอดทั้งปี
แต่เซียร์ลีแสดงความกังวลใจว่าสเปนอาจจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ในการประมูทุกครั้ง 
พร้อมกับกล่าวว่าถ้าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ออกมาตรการซื้อพันธบัตร
ซึ่ง
ดูเหมือนมีความเป็นไปได้น้อยในเวลานี้ 
ก็เป็นการยากที่สเปนจะหยุดยั้งผลตอบแทนพันธบัตรไม่ให้พุ่สูงขึ้นไปกว่านี้
   
สเปนขอรับเงินช่วยเหลือด้วยเพดาน 1 แสนล้านยูโรแล้วก็จริง 
แต่เงินก้อนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ที่ประสบปัญหา
รัฐบาลสเปนยังจำเป็นที่จะต้องระดมเงินจากตลาดการเงินเพื่อนำมาชำระหนี้และใช้จ่ายงบประมาณที่ขาดดุล
ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินว่าเป็นมูลค่า 6.4 หมื่นล้านยูโรสำหรับปี 2555 ตลอดทั้งปี

   
นายคริสโตบาล มอนโตโร รัฐมนตรีงบประมาณของสเปน กล่าวต่อรัฐสภา
ในการลงมติสนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ของนายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอย
เป็นมูลค่า 6.5 หมื่นล้านยูโร ว่าเวลานี้รับาลไม่มีเงินในคลังสำหรับจ่ายให้กับข้าราชการ 
พร้อมกับกล่าวว่าสมาชิกรัฐสภาของสเปนตระหนักดีว่าถ้าไม่รับรองมาตรการดังกล่าว
ทางเลือกของสเปนคือต้องรับเงินช่วยเหลือเต็มรูปแบบ
ซึ่งจะทำให้สเปนต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด
และสูญเสียความยืดหยุ่นในการลดการขาดดุลให้ได้ตามเป้าหมาย
แม้ว่าจะมีการประท้วงมาตรการดังกล่าวจากสหภาพแรงงานก็ตาม

ผู้นำยูโรโซนแสดงท่าทีในการประชุมเมื่อเดือนก่อนว่า
ยินดีจะให้ความช่วยเหลือสเปนและประเทศที่อ่อนแออื่นๆ
ด้วยการเปิดให้ใช้กองทุนช่วยเหลือเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรอง (secondary market) ได้
อย่างไรก็ดี เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า
สเปนจะต้องยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการเพื่อขอให้มีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว
ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ยังมองว่า ด้วยจำนวนเงินที่มีอยู่อย่างจำกัดของกองทุนช่วยเหลือ
คือประมาณ 4 แสนล้านยูโรหลังจากให้เงินช่วยเหลือธนาคารสเปนไปแล้ว
อาจจะทำให้วิธีการดังกล่าวได้ผลเพียงระยะสั้นเท่านั้น
   
นักเศรษฐศาสตร์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การเปิดให้กองทุนช่วยเหลือกู้เงินจากอีซีบีได้โดยตรง
อาจจะช่วยผ่อนคลายความกังวลของนักลงทุนถึงความสามารถในการให้เงินกู้แก่รัฐบาลที่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทางการกล่าวว่าอีซีบียังไม่ยอมให้กองทุนช่วยเหลือทำเช่นนั้นได้
   
ขณะเดียวกัน รัฐสภาเยอรมนีมีมติอนุมัติการให้เงินช่วยเหลือสำหรับธนาคารสเปนเป็นที่เรียบร้อย
โดยเยอรมนีซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กองทุนช่วยเหลือรายใหญ่ที่สุด
จะการันตีเงินกู้มากถึง 2.9 หมื่นล้านยูโรภายใต้งบช่วยเหลือสเปน

ขณะที่จำนวนเงินกู้ที่แน่ชัดของสเปนน่าจะมีการประเมินกันในเดือนกันยายน
หลังจากมีการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของแต่ละธนาคารว่าต้องการเงินทุนมากน้อยเพียงใด
ก่อนที่จะร่างแผนการปรับโครงสร้างในเดือนตุลาคม
ตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยเงื่อนไขการรับเงินช่วยเหลือของสเปน
ซึ่งรัฐมนตรีคลังยูโรโซนมีกำหนดลงนามรับรองเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ค.) ที่ผ่านมา

สเปนจะได้รับเงินงวดแรกทันที 3 หมื่นล้านยูโร
สำหรับธนาคารที่รัฐบาลเข้าไปอุ้มและต้องการเงินทุนอย่างเร่งด่วน
โดยเงินช่วยเหลือในช่วงแรกจะมาจากกองทุนช่วยเหลือชั่วคราว (อีเอฟเอสเอฟ)
จนกว่ากองทุนถาวร (อีเอสเอ็ม) จะเริ่มมีผลบังคับใช้ คาดว่าน่าจะเป็นประมาณเดือนกันยายน

.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น