วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา (ตลาดหุ้นไทยปิด) และพรุ่งนี้ก็เป็นวันเข้าพรรษา
แต่สำหรับตลาดเงินฟอเร็กซ์แล้วยังเปิดเทรดกันได้...
เตรียมลุ้นผลการประชุมของ ECB ว่าจะออกมาทำให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหรือไม่---
เมื่อคืน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุม
โดยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rates) ที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมกับยืนยันว่า
เฟดจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2557
โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เฟดระบุว่าจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น
ขณะเดียวกันเฟดได้ปรับลดมุมมองทางเศรษฐกิจลงจากการประชุมครั้งก่อน โดยระบุว่า
กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ "ค่อนข้างชะลอตัวลง" จากที่เคยประเมินในการประชุมครั้งก่อนว่า
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ "ขยายตัวปานกลาง"
นอกจากนั้นนักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (นอน-ฟาร์ม) เดือน ก.ค.
ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (พรุ่งนี้)
ขณะเดียวกันตลาดกำลังจับตาดู ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
ซึ่งจะประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาประเทศไทย
ซึ่งนักลงทุนรู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้นเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องยูโรโซน
ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ที่กล่าวก่อนหน้านั้นว่า
อีซีบีจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องสกุลเงินยูโร
และพร้อมจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นภายใต้ขอบเขตอำนาจของอีซีบี เพื่อยับยั้งการล่มสลายของยูโรโซน
รอยเตอร์รายงานผลสำรวจพบว่า
ภาคการผลิตของอังกฤษหดตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ในเดือน ก.ค.
ซึ่งทำลายความหวังที่ว่าอังกฤษอาจจะฟื้นตัวจากภาวะถดถอยในช่วงฤดูร้อนนี้
ทั้งนี้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ Markit/CIPS
ร่วงลงสู่ระดับ 45.4 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 48.4 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวลงอีกครั้ง
โดยนักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดว่าการผลิตจะฟื้นตัวขึ้นบางส่วนในไตรมาส 3
ขณะที่ดัชนี PMI อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2009 และปรับตัวลงอีกจากระดับ 50
ที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัวลง
และยังต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ต่ำสุดของนักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ด้วย
ทั้งนี้อังกฤษประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปีในช่วงต้นปีนี้
และเศรษฐกิจหดตัวลง 0.7% ในไตรมาสเดือน เม.ย.-มิ.ย.
เนื่องจากการลดงบรายจ่ายของรัฐบาล, ภาวะปั่นป่วนในยูโรโซน, สภาพอากาศที่เลวร้าย และวันหยุดพิเศษ
ขณะที่ข้อมูลที่ย่ำแย่ดังกล่าวจะหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษ
จะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมทันทีที่โครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 5.0 หมื่นล้านปอนด์
ด้วยธนบัตรที่พิมพ์ใหม่สิ้นสุดลงในเดือน พ.ย.
และอาจจะทำให้มีการคาดการณ์เกี่ยวกับการออกมาตรการก่อนกำหนดด้วย
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม :
18.00 น. ธนาคารกลางอังกฤษประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเดือน ส.ค.
18.45 น. ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
19.30 น. ซีบีแถลงข่าวผลการประชุม
19.30 น. กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
21.00 น. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือน มิ.ย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น