เพื่อช่วยกระตุ้นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
โดยล่าสุดมีความเห็นของประธานเฟดสาขาบอสตันที่ชี้ว่าเฟดควรจะเริ่มต้นซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
และหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS)
ไปจนกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาแข็งแกร่งอย่างเต็มที่
ขณะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า ยอดสินเชื่อผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมิ.ย. ขยายตัว 3%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งสัญญาณเชิงบวกถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น
โดยเฟดระบุว่ายอดการกู้ยืมในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นแตะ 2.5774 ล้านล้านดอลลาร์
จากระดับ 2.5709 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือน พ.ค.
ด้านยุโรป ยังคงมีความคาดหวังว่าอีซีบีจะดำเนินการเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมที่ระดับสูงของสเปนและอิตาลี
ด้วยการซื้อพันธบัตรของทั้งสองประเทศ
ขณะที่ระดับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 6.63%
และพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีก็ปรับตัวลงเช่นกันที่ระดับ 5.88%
อีกทั้งยุโรปก็ยังพอมีข่าวบวกมากกว่าข่าวลบ หลังเยอรมันออกมาสนับสนุนให้ ECB เข้าซื้อพันธบัตร
โดยนักลงทุนในตลาดขานรับถ้อยแถลงของโฆษกรัฐบาลเยอรมนีวานนี้
ถึงการสนับสนุนแผนการณ์ของอีซีบีในการเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศยูโรโซนซึ่งกำลังประสบปัญหา
กระนั้น สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P)
ได้ทำการปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่เชิงลบ จากเดิมที่มีเสถียรภาพ
โดยคาดการณ์ว่า กรีซอาจไม่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณได้ตามเป้า
และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไข
อันเนื่องมาจากความเป็นไปได้ที่กรีซอาจจะต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป (อียู)
และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ผลการสำรวจที่ใช้ชื่อว่า "วิกฤตหนี้ยุโรปกำลังคุกคามเศรษฐกิจของเราหรือไม่"
ซึ่งจัดทำโดยคลอปเฟล คอนซัลติ้งได้รับการเปิดเผยเมื่อวานนี้
โดยผลสำรวจผู้บริหาร 319 คนในออสเตรีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์เกี่ยวกับอนาคตเศรษฐกิจยุโรป
เปิดเผยว่า กว่า 60% ของผู้บริหารยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
และ 12% กังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
ทั้งนี้ ผู้บริหารที่เห็นว่าวิกฤตหนี้ยุโรปได้รับการแก้ไขในระดับที่น่าพึงพอใจแล้วมีน้อยกว่า 30%
ขณะที่อีก 12% ยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นทั่วโลก
ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลได้แก่ เรื่องข้อกำหนดที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ
การล่มละลายของธนาคาร และภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
ช่วงนี้ดูเหมือนการเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลสำคัญต่างๆ ยังค่อนข้างทรงตัว
และอาจยังไม่ได้สะท้อนทิศทางที่ชัดเจนต่อการดำเนินมาตรการในเร็วๆ นี้
โดยสกุลเงินยูโร ซึ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์เป็นวันที่ 3
หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
จะใช้มาตรการเพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีให้ปรับตัวลดลง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้
• ตัวเลขดุลการค้ารายเดือนในเยอรมัน 13.00 น.
• ตัวเลขดุลการค้าในฝรั่งเศส 13.45 น.
• ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมรายเดือนในเยอรมัน 17.00 น
• ตัวเลขผลผลิตนอกกลุ่มการเกษตรเบื้องต้นรายไตรมาสในสหรัฐฯ 19.30 น.
• ตัวเลขต้นทุนแรงงานรายไตรมาสในสหรัฐฯ ประมาณ 19.30 น.
***
ผลปิดออเดอร์ Forex เมื่อวันจันทร์กับอังคารแบบเม่าๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น