29 กันยายน 2555

QE3 กับการปล้นครั้งใหม่!!!

เช้าวันเสาร์ขณะฝนตกโปรยปราย อากาศเริ่มจะหนาวและน่านอนซุกใต้ผ้าห่มบนเตียงนุ่มๆ
ช่วงเสาร์-อาทิตย์ ตั้งใจว่าจะหาบทความดีๆ มีคุณภาพ และให้แง่คิดมาลงบล็อกนี้บ้าง
เพราะการเทรดโดยใช้อินดิเคเตอร์เพียวๆ คงไม่น่าโสภาแฮปปี้เท่าไหร่นัก
บางทีก็ต้องมองไปข้างหน้า จินตนาการไปสู่อนาคตกันบ้าง

***

QE3 กับการปล้นครั้งใหม่!!!
โดย...ท่านขุนน้อย จากไทยโพสต์

เพื่อแก้เบื่อ แก้เอือมกับความชุลมุนวุ่นวายภายในเข่งไก่...
เห็นทีจะต้องหันไปพูดถึงเรื่องมาตรการ QE3 ของคุณพ่ออเมริกาน่าจะเหมาะกว่า
เพราะถึงแม้จะเป็นเรื่องไกลตา แต่ก็ใกล้ตีนมิใช่น้อย พูดง่ายๆ ว่า...
การที่คุณพ่ออเมริกาท่านมุ่งที่จะปั๊มเงินดอลลาร์ออกมาสู่ตลาดคราวแล้วคราวเล่า
ชนิดแทบจะท่วมโลกทั้งโลกไปแล้วก็ว่าได้
สุดท้ายแล้ว...มาตรการเหล่านี้ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อประเทศไทยแลนด์แดนสยามของหมู่เฮา
ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้แน่ๆ...

ถ้าไล่มาตั้งแต่ครั้ง QE1 หรือครั้งแรกที่ธนาคารกลางของสหรัฐ (เฟด) ได้งัดเอาสิ่งที่เรียกว่า
มาตรการผ่อนคลายในเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) มาใช้เป็นตัวแก้ปัญหาเศรษฐกิจอเมริกา
ที่ไม่ว่าภาครัฐหรือภาคเอกชนต่างล้วนแต่มีหนี้สินอีนุงตุงนัง
ชนิดอาจต้องใช้เวลาอีกไม่รู้กี่ศตวรรษต่อกี่ศตวรรษถึงจะใช้หนี้ได้หมด
ในครั้งนั้นคุณพ่ออเมริกาท่านได้ปั๊มเงินดอลลาร์สดๆ ออกมา
โดยไม่ต้องใช้สินทรัพย์ใดๆ ค้ำประกันการันตี เป็นจำนวนถึง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์เข้าไปแล้ว
มาถึง QE2 ก็กดก็ปั๊มกันเข้าไปอีกถึง 6 แสนล้านดอลลาร์
ส่วน QE3 ที่โผล่ตามมาติดๆ เมื่อวันที่ 13 กันยา.ที่ผ่านมา เที่ยวนี้ว่ากันว่า...
อาจต้องปั๊มเงินออกมาไม่ต่ำกว่าเดือนละ 80,000-100,000 ล้านดอลลาร์
นับจากต้นปีหน้าไปยันถึงปี ค.ศ.2015 หรือต่อเนื่องกันไปตลอด 5-6 ปี
ที่ถ้าหากนับรวมๆ กันแล้ว น่าจะไม่ต่ำไปกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นอย่างน้อย...

ส่วนมาตรการเหล่านี้มันจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจอเมริกา
ช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยลดอัตราการว่างงานให้ลดๆ ลงไปได้บ้าง หรือไม่ อย่างไร 
อันนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่อง...ของมึง (ขอประทานโทษ...ของท่าน)
ซึ่งในทุกวันนี้ก็ยังคงมีการเถียงกันไม่หยุด ไม่ว่าในหมู่ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจนอกอเมริกา
หรือในอเมริกาเอง กระทั่งในแวดวงธนาคารกลางของสหรัฐด้วยกัน 
เห็นข่าวแวบๆ ว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาฟิลาเดลเฟีย
ถึงกับออกมายำมาตรการเหล่านี้ชนิดเละตุ้มเป๊ะ
เล่นเอาแมลงเม่า แมงกระชอน ในตลาดหุ้นทั่วโลกหวาดหวั่น ขวัญผวากันชนิดปีกร่วง ปีกหลุด
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ นิกเกอิ ฮั่งเส็ง ร่วงกันไปไม่รู้กี่จุดต่อกี่จุด
กว่าจะหายตื่นเต้น ตื่นตูม ก็ต้องปลุกปลอบขวัญกันไปมิใช่น้อย...
ภาพจาก www.churchstate.us

แต่สิ่งที่น่าคิดน่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือว่า...
การปั๊มเงินดอลลาร์สดๆ ออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าเช่นนี้
แม้ว่าจะอ้างว่าเพื่อเอาไปซื้อตราสารพันธบัตร และสินทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพ
อันจะเป็นการช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบเศรษฐกิจของอเมริกา
หรือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน และเพิ่มการจ้างงานไปในตัว
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ดูเหมือนว่าเงินเหล่านี้มันจะไม่ได้ไหลเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจภายในอเมริกา
ไปช่วยหล่อเลี้ยงเส้นเลือดของบรรดาอเมริกันชน โดยเฉพาะประเภทปุถุชนคนธรรมดา

หรือคนยากคนจนซักเท่าไหร่นัก หรือไม่ได้ก่อให้เกิดการลงทุนการจ้างงานในสังคมอเมริกันอะไรกันมากมาย 
แต่มันกลับจะทะลักออกมานอกอเมริกา หรือกลับไหลทะลักออกมาท่วมโลกทั้งโลกซะเป็นหลักใหญ่...

อันเป็นไปตามธรรมชาติของเงินตรานั่นเอง...คือที่ไหนที่มันมีผลประโยชน์ มีกำไร
เงินมันมักจะต้องไหลไปที่นั่นตามคุณลักษณะทางธรรมชาติของมัน
ในเมื่อแหล่งผลิต หรือฐานการลงทุนโดยส่วนใหญ่มันย้ายออกมาอยู่ในเอเชีย
หรือในประเทศเศรษฐกิจใหม่กันแทบจะหมดแล้ว
ไม่ว่าคุณพ่ออเมริกาท่านจะปั๊มเงินดอลลาร์ออกมาซักเท่าไหร่
เงินเหล่านั้นมันก็จะติดปีกออกไปหา "กำไร" จากแหล่งผลประโยชน์ต่างๆ นานาในทั่วทุกซีกโลก
และโดยธรรมชาติของเงินตราอีกนั่นแหละ ที่ทำให้มันคงไม่ได้คิดจะหากำไรจากการลงทุนในแบบปกติธรรมดา
แบบมีจริยธรรม มีธรรมาภิบาล อย่างที่เพ้อๆ กันไป
หรืออย่างที่พวกชอบมั่วๆ อยู่กับเรื่องเงินๆ ทองๆ ในตลาดหุ้นบ้านเราเคยพูดๆ เอาไว้นั่นแหละว่า
"อย่าอุ้มพระเข้ามาในตลาดหุ้น"
การไหลทะลักของเงินดอลลาร์ออกไปท่วมโลกทั้งโลก
มันจึงมักก่อให้เกิดการแสวงหาประโยชน์ หรือการลงทุนในแบบที่เรียกว่า การเก็งกำไร
ไม่ว่าจะเป็นการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดหุ้น 
หรือแม้กระทั่งในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของแต่ละประเทศ
ที่เงินดอลลาร์อเมริกัน มันจะหลากไหลเข้ามาไม่ต่างไปจากน้ำป่าไหลหลาก 
หรือน้ำท้น น้ำเอ่อ น้ำแฉะ น้ำขังก็แล้วแต่จะเรียก...
                   
อย่างที่ศาสตราจารย์ ไมเคิล ฮัดสัน แห่งมหาวิทยาลัยมิสซูรี อดีตนักเศรษฐศาสตร์วอลสตรีท
ท่านเคยได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ตั้งแต่ครั้ง QE1 แล้วว่า 
ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในอเมริกาต่ำเตี้ยเพียงแค่ระดับ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ถ้าหากพวกบ้าเงินบ้าทองรายใด ใช้เงินลงทุนเพียงแค่ 1 ล้านดอลลาร์

แล้วไปกู้เงินจากธนาคารอเมริกันที่ต่างได้รับการอุ้ชู อัดฉีด 
จากมาตรการดังกล่าวมาอีกซัก 99 ล้านดอลลาร์ รวมเป็น 100 ล้านดอลลาร์ 
แล้วเอาเงินที่ว่าไปซื้อเงินหยวน หรือเงินเหรินหมินปี้ของจีนเอาไว้ซักพัก
และเมื่อไหร่ที่สหรั
ฯ สามารถกดดันจีนให้ต้องขึ้นค่าเงินหยวน
ให้เพิ่มขึ้นไปอีก 20 เปอร์เซ็นต์ตามเป้าหมายที่เคยป่าวประกาศมาโดยตลอด
เงิน 100 ล้านดอลลาร์ของพวกบ้าเงินบ้าทองรายนั้น ก็จะกลายเป็นเงิน 120 ล้านดอลลาร์ไปโดยทันที
หรือ แค่ลง
ทุ1 ล้านเท่านั้น ได้กำไรเพิ่มขึ้นมาถึง 20 ล้านดอลลาร์ 
หรือกำไรถึง 200 เปอร์เซ็นต์เหนาะ...
               
ในทัศนะของศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์รายนี้...มาตรการ QE ของสหรัฐจึงถูกสรุปเอาไว้ว่า
ไม่ต่างอะไรไปจาก การปล้น เราดีๆ นี่เอง ด้วยเหตุนี้...
ในแต่ละครั้งที่ธนาคารกลางสหรัฐงัดเอามาตรการดังกล่าวออกมาใช้ชนิดคราวแล้วคราวเล่า
บรรดาประเทศต่างๆ จึงต้องระวังกระเป๋าของตัวเองเอาไว้ให้ดี ไม่ใช่อ้าขา ผวาปีก
หมกมุ่น มัวเมาอยู่กับการขึ้นๆ ลงๆ ในตลาดหุ้นโดยไม่ได้คิดหน้า คิดหลัง คิดถึงประเทศตัวเอง 

สังคมตัวเองเอาไว้เลย เพราะไม่ว่าประเทศยักษ์ใหญ่ หรือยักษ์ใหม่ อย่างอินเดีย 
หรือแม้กระทั่งจีน ยังเคยต้องโหยหวน ครวญคราง กับมาตรการเหล่านี้มาโดยตลอด 
ต้องหาทางทำให้เงินสกุลของตัวเองไม่แข็งค่าจนเกินไป ต้องควบคุมปริมาณเงินไหลเข้า 
ต้องหาทางยับยั้งฟองสบู่จากการเก็งกำไรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ต้องพยายามรักษาความสมดุลระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับภาวะเงินเฟ้อเอาไว้ให้ดี


แม้แต่ประเทศไทยแลนด์แดนสยามของหมู่เฮาก็เถอะ
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยให้ผลตอบแทนระดับ 3 เปอร์เซ็นต์
แต่พันธบัตรสหรัฐระยะ 2 ปีให้ผลตอบแทนเพียงแค่ 0.25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
กระทั่งระยะ 10 ปี ยังให้แค่ 1.8  เปอร์เซ็นต์
โอกาสที่เงินดอลลาร์มันจะไหลทะลักเข้ามาฟันส่วนต่างกำไรกันแบบจะจะ 
เห็น ย่อมเป็นอะไรที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย
เฉพาะการปล้นคราวที่แล้วช่วงวิก
ติต้มยำกุ้งก็ฉิบหายกันไปแทบทั้งประเทศ
ครั้งนี้...ก็พึงระวังเอาไว้ให้ดีเถิด โดยเฉพาะ
ผู้ที่ถนัดในการใช้จ่ายแบบอีลุ่ฉุยแฉกซะจนเคย
ขนาด
QE3 ยังไม่ทันออกทธิ์ก็ดันออกอาการ ถังแตก ซะแว้ว!!!
         

 ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก โสเครติส...
“ผู้ที่มีความพอใจต่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวเองมีอยู่ คือผู้ที่ร่ำรวยที่สุด 
เพราะความสันโดษ (ความพอเพียง) คือทรัพย์ของธรรมชาติ...”

เครดิตจาก : อิสรภาพแห่งความคิด thaipost

28 กันยายน 2555

สเปนอนุมัติงบประมาณและแผนการปฏิรูป

สกุลเงินยูโร Rebound ขึ้นด้วยปัจจัยบวกในสเปน ทำให้ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งขึ้นมาที่ระดับ 1.2940
กอปรกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อคืน ถือว่ายังมีทิศทางเชิงลบ
โดยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ
ขยายตัวเพียง 1.3% ต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 1.7%
เนื่องจากการบริโภคส่วนบุคคลและยอดส่งออกที่ชะลอตัว จึงทำให้ค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนลง
ขณะเดียวกันสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดดีดตัวขึ้นแรง อาทิ ทองคำ น้ำมัน


ความสนใจของนักลงทุนเมื่อวานนี้ พุ่งเป้ามาที่แผนงบประมาณมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ของสเปน
และการที่สเปนจะมีการขอความช่วยเหลือทางการเงินจากอีซีบีหรือไม่
ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีสเปนได้อนุมัติงบประมาณและแผนการปฏิรูปสำหรับปี 2013 ออกมา
ในการประชุมเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายที่จะยุติวิกฤตหนี้สาธารณะในสเปน
ด้วยการลดค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเพื่อจะลดการขาดดุลให้ได้อย่างน้อย 1.8 หมื่นล้านยูโร
ซึ่งภายใต้แผนการฉบับใหม่นี้ รัฐบาลสเปนจะผ่านร่างกฎหมาย 43 ฉบับเพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วงหกเดือนข้างหน้า
การตัดลดงบประมาณของสเปนเป็นการสะท้อนว่า โอกาสที่สเปนจะขอรับเงินช่วยเหลือมีความเป็นไปได้สูง
ซึ่งก็จะทำให้บรรยากาศการลงทุนในยุโรปปรับตัวดีขึ้น
เพราะสเปนถือเป็นประเทศที่มีการจับตามมากที่สุดในตอนนี้

นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงินเป็นวงเงินสุทธิ 3.65 แสนล้านหยวน
หรือ 5.792 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งนับเป็นการอัดฉีดเงินรายสัปดาห์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
โดยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินในปริมาณสูงสุดเช่นนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางจีนกำลังเผชิญกับความยากลำบาก
ในการรักษาสภาพคล่องเอาไว้อย่างเพียงพอโดยไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ
และมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้ธนาคารพาณิชย์เผชิญกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวในระยะสั้น

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 13.00 น. ยอดค้าปลีกของเยอรมันรายเดือน (German Retail Sales)
• เวลา 15.30 น. ดัชนีภาคบริการรายไตรมาสในอังกฤษ (Index of Services)
• เวลา 16.00 น. คาดการณ์ดัชนีเงินเฟ้อในยูโร (CPI Flash Estimate)
• เวลา 16.00 น. ดัชนีราคาผู้บริโภคเบื้องต้นในอิตาลีรายเดือน (Italian Prelim CPI)
• เวลา 19.30 น. ดัชนีราคา​การ​ใช้จ่าย​เพื่อ​การบริ​โภคส่วนบุคคลพื้นฐานสหรัฐฯ (Core PCE Price Index)
• เวลา 19.30 น. ดัชนีรายจ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ (Personal Spending)
• เวลา 19.30 น. ดัชนีรายได้ส่วนบุคคลสหรัฐฯ (Personal Income)
• เวลา 20.45 น. ดัชนีภาคการผลิตสาขาชิคาโก (Chicago PMI)

27 กันยายน 2555

ข่าวฟอเร็กซ์ 27 ก.ย.

เมื่อวาน ตัวเลขที่เป็นปัจจัยช่วยกดดันค่าเงินยูโรได้แก่
ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในเยอรมนีที่ประกาศออกมา 0% จาก 0.4%
ตัวเลขยอดค้าปลีกรายเดือนในอิตาลีที่ประกาศออกมา -0.2% จาก 0.4%
รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้น นักลงทุนจึงทยอยขายเงินยูโรออกมา
อีกทั้งกลุ่มเจ้าหนี้ระหว่างประเทศของกรีซยังมีความขัดแย้งกันในการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ
จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อค่าเงินยูโร
ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นขณะที่สกุลเงินยูโรก็อ่อนค่าลง
แต่ช่วงดึกเมื่อคืนต่อถึงเช้านี้ ดูเหมือนจะมีแรงช้อนซื้อสกุลเงินยูโรเข้ามา...

ในช่วงเช้านี้ สกุลเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.2870 ดอลลาร์ หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.2835 ดอลลาร์
เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า คำสั่งซื้อที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ยรอบ 200 วัน
ที่ราคา 1.2827 ดอลลาร์ช่วยสกัดการร่วงลง และคาดว่าแนวรับที่แข็งแกร่งขึ้นอยู่ที่ 1.2739 ดอลลาร์
โดยเทรดเดอร์ดังกล่าวยังระบุว่า ความลังเลของสเปนในการขอความช่วยเหลือ
และใช้โครงการซื้อพันธบัตรใหม่ของธนาคารกลางยุโรป ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาด
โดยนักลงทุนขายพันธบัตรสเปนและอิตาลีออกมาเมื่อวานนี้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพุ่งขึ้นทันที

นักลงทุนยังระมัดระวังต่อการขายยูโรมากเกินไป เนื่องจากสเปนอาจจะขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
แถมไม่มีใครต้องการถือดอลลาร์ไว้ในขณะที่เฟดกำลังดำเนินมาตรการกระตุ้นของตนเอง
ขณะที่ตลาดยังวิตกต่อการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนโดยมูดี้ส์ อินเวส เตอร์ เซอร์วิสในสัปดาห์นี้
ซึ่งอาจจะทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลดต่ำกว่าระดับที่น่าลงทุน



ด้านตลาดหุ้นยุโรปรับลดลงถึง 2-3% จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนปรับขึ้นเกิน 6% อีกครั้ง
ทำให้ความกังวลใจของนักลงทุนช่วงนี้พุ่งมาที่วิกฤติหนี้ยุโรปเป็นสำคัญ
ขณะที่รัฐบาลสเปนจะต้องพิจารณาแผนงบประมาณรายจ่ายปี 2013 ในวันที่ 27 ก.ย.
ก่อนนำเสนอต่อสภาฯ ในวันที่ 28 ก.ย. ท่ามกลางการประท้วงของประชาชนต่อมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่
ทั้งนี้ สเปนมีอัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูงสุดของยุโรป โดยตัวเลขประชากร 1 ใน 5 ว่างงาน
และกว่าร้อยละ 50 ของประชาชนอายุระหว่าง 19-25 ปี ก็ยังว่างงาน อยู่
ฉะนั้น มาตรการรัดเข็มขัดต่างๆ เช่น การปฏิรูปแรงงาน ซึ่งทำให้ปลดแรงงานได้ง่ายขึ้น
ทั้งตัดทอนงบประมาณด้านการศึกษาและสาธารณสุข ได้จุดชนวนให้ชาวสเปนโกรธเคืองออกมาประท้วง
นอกจากนี้การประท้วงในกรีซก็ปะทุขึ้น เพราะรัฐบาลกรีซกำลังเตรียมการปรับลดรายจ่ายลงตามที่กลุ่มทรอยก้ากำหนด
โดยมีการผละงานประท้วงครั้งใหญ่ทั้งบรรดาสายการบิน รถไฟ ร้านค้า และโรงพยาบาลซึ่งเปิดเฉพาะแผนกฉุกเฉิน
ดูเหมือนว่าแนวทางการแก้ไขแบบเดิมๆ ด้วยการใช้มาตรการรัดเข็มขัดนั้น
จะไม่สามารถดำเนินไปได้ด้วยดีในสถานการณ์ปัจจุบัน ปัจจัยเหล่านี้เองได้ตอกย้ำให้เห็นว่า
ยูโรโซนเผชิญกับอุปสรรคขนาดใหญ่ในการแก้ไขภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤติการเงิน

ด้านเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และฟินแลนด์ กล่าวว่า
รัฐบาลของแต่ละประเทศควรแบกรับความสูญเสียในภาคการธนาคารของประเทศด้วยตัวเอง
และกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ควรมีขีดจำกัดในการเพิ่มทุนแก่ธนาคารต่างๆ

เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานฝรั่งเศสเผยว่า
จำนวนคนว่างงานในฝรั่งเศสออกมาสู่ระดับสูงสุดถึง 3 ล้านคนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 13 ปี
สะท้อนถึงความล้มเหลวของนโยบายเศรษฐกิจและสังคมของฝรั่งเศสในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 13.00 น. ตัวเลขราคานำเข้าสินค้าของเยอรมันรายเดือน (German Import Prices)
• เวลา 14.55 น. ยอดผู้ว่างงานเยอรมนี (German Unemployment Change)
• เวลา 15.30 น. ผลผลิตมวลรวมในอังกฤษ (Final GDP)
• เวลา 19.30 น. คำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานสหรัฐฯ (Core Durable Goods Order)
• เวลา 19.30 น. ยอดผู้ขอรับสวัสดิการจากภาครัฐในสหรัฐฯ (Unemployment Claims)
• เวลา 19.30 น. คำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ (Durable Goods Orders)
• เวลา 19.30 น. ผลผลิตมวลรวมในสหรัฐฯ (Final GDP)
• เวลา 21.00 น. ยอดทำสัญญาขายบ้านในสหรัฐฯ (Pending Home Sale)

• ประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอิตาลี (Italian 10-y Bond Auction)
อิตาลีจะประมูลขายพันธบัตรมูลค่า 7 พันล้านยูโรในวันนี้ โดยผลตอบแทนที่สูงขึ้นอาจเพิ่มความต้องการ
แต่ความผันผวนของตลาดก็อาจจะทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าซื้อ



26 กันยายน 2555

Thank you

ก่อนอื่นต้องขอบใจสำหรับท่านที่กด Like ในเฟซบุ๊กให้ตั้ง 3 คน
- คุณ Suphot Weeraspon
- คุณ A Chamod Bok Bok
- สุดท้าย เด็กหญิงชาลินี เกษรรัตน์ แหมๆ ขยันช่วยกดถูกใจหนังสือให้ด้วย

ผมกำลังคิดว่า...จะยุติบล็อกนี้ หรือค่อยๆ อัพเดทไปเรื่อยๆ
ก็อย่างที่บอกตรงๆ ว่าผมไม่ได้เทรดเงินจริง (ล้างพอร์ตไป 3 รอบ)
ปัจจุบันเทรดเงินเดโมเล่นไปพลางๆ พร้อมกับทดสอบบางทฤษฎีที่ตัวเองสงสัย
คือผมอยากเทรดรอบใหญ่ๆ มากกว่า จึงสนใจกราฟใน TF Day กับ Week 
โดยใช้เครื่องมืออย่าง MACD, Stoch, RSI และเส้น Moving Average
ตอนนี้ ทั้ง EU หรือ GU ในกราฟสัปดาห์ Weekly นั้น สัญญาณอย่าง MACD กับ Stoch จะมุดลงได้หรือไม่---

***

ความกังวลปัญหาในสเปนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของสัปดาห์นี้
ขณะที่เมื่อเมื่อวานนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดูดีทีเดียว
ทั้งดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้น 1.2% ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ส.ค.53
และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ย.ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 70.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วที่ระดับ 61.3
โดยทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน

สกุลเงินยูโรและปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ส่วนยูโรเมื่อเทียบกับเยนก็อ่อนค่าลงเช่นกัน
ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่องการขยายตัวที่ซบเซาของเศรษฐกิจโลก
ขณะที่ตลาดยังจับตาความคืบหน้าปัญหาหนี้ของยุโรปว่าจะลุกลามหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของสเปน
ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมใช้มาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ในปีงบประมาณ 2013
ทว่าต้องเผชิญกับการประท้วงของประชาชนชาวสเปนที่ไม่พอใจ
ขณะที่ในส่วนของภาคธนาคารหลังหนี้เสียยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น

ประเด็นที่ต้องติดตามในอนาคต
27 ก.ย. สเปนกับคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยเรื่องการปรับโครงสร้าง
28 ก.ย. การประชุมระหว่างผู้นำกรีซ อิตาลี และสเปน 
28 ก.ย. สเปนจะขอความช่วยเหลือทางการเงินหรือไม่
      ผลการทำ Stress test ของธนาคารพาณิชย์สเปน
 4 ต.ค. ธนาคารกลางยุโรปประชุม
 8 ต.ค. ประชุมระหว่างประธานยูโรกรุ๊ปกับกองทุน ESM
11 ต.ค. ประชุม G7 เรื่องวิกฤติหนี้ยุโรป





นายฌ็อง โคลด จุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก และเป็น ประธานกลุ่มยูโรโซน
ได้กล่าวระหว่างการพบปะกับ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่กรุงมอสโกว่า
ขณะนี้ยูโรโซนมีความแข็งแกร่งและมีความพร้อมมากขึ้นในการต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจ
โดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) นับว่ามีบทบาทสำคัญมากในช่วงไม่นานมานี้
รวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลจากประเทศสมาชิกยูโรโซนที่กำลังมีปัญหาด้วย

นายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า
มาตรการ QE3 แทบจะไม่มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงาน
มีแต่จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเฟด

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ระบุว่า
ทางไอเอ็มเอฟเตรียมที่จะปรับลงคาดการณ์เศรษฐกิจโลก
ในการเปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในเดือนหน้า
เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ
โดยจากที่คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2012 ไว้ที่ระดับ 3.5%
และได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2013 เหลือ 3.9%

รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังของเม็กซิโก ได้กล่าวในการประชุมรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง
และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือ G20 ที่เม็กซิโก้ ซิตี้ ว่า
โครงการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางยุโรป (ECB), ธนาคารกลางจีน และธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
ช่วยบรรเทาความกังวลในตลาด แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
ขณะที่กรรมการบริหารธนาคารกลางเม็กซิโกก็บอกว่า
มาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงขาลงที่เกิดจากวิกฤตหนี้ยูโรโซนหายไป
รวมทั้งยังไม่ได้แก้ปัญหาความตึงตัวทางการคลังของสหรัฐฯ
และการชะลอตัวของเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่
แต่การดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายเป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น
ส่วนเจ้าหน้าที่ของ G20 คนหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า ความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น
ทำให้โครงการซื้อสินทรัพย์ของเฟด เป็นสิ่งชั่วร้ายที่จำเป็นต้องทำ
นอกจากนี้ ที่ประชุม G20 ยังเสริมด้วยว่า บรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่ไม่ได้ห่วงว่า
การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ จะทำให้เกิดสงครามค่าเงินรอบใหม่ขึ้นมาอีก
โดยก่อนการประชุม มีบราซิลเพียงประเทศเดียวที่กล่าวว่า
จะไม่ปล่อยให้ค่าเงินเรียลแข็งค่าขึ้นจากการออกมาตรการการเงินของประเทศพัฒนาแล้ว

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• All Day ดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี (German Prelim CPI)
• เวลา 15.00 น. ยอดค้าปลีกอิตาลี (Italian Retail Sale)
• เวลา 21.00 น. ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ  (New Home Sales)
• เวลา 21.30 น. คลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ (Crude Oil Inventories)

24 กันยายน 2555

ขอ Like + ข่าวฟอเร็กซ์ 25 ก.ย.

เมื่อวาน (วันจันทร์) สกุลเงินยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์และเยน
เหตุที่เงินยูโรกลับอ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้นในยุโรป

ขณะนี้ นักลงทุนเริ่มกังวลกับภาวะเศรษฐกิจโลกมากขึ้น
ภายหลังการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของหลายแห่ง
ล่าสุดเป็นดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (German Ifo Business Climate)
ที่ออกมาปรับตัวลดลงต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยหดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 
กอปรทั้งปัญหาหนี้ของยุโรปที่ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนกับอิตาลีต่างดีดตัวขึ้น
ทำให้นักลงทุนรอดูข่าวสารของสเปนในวันพฤหัสฯ นี้ ซึ่งจะมีการแถลงการปฎิรูปงบประมาณ
รวมทั้งผลการทดสอบความแข็งแกร่งของภาคธนาคารสเปน (Stress Test)
ทั้งนี้หากสเปนยังไม่ขอความช่วยเหลืออย่างเต็มรูปแบบ
นั่นหมายความว่าโปรแกรมการซื้อพันธบัตรอายุต่ำกว่า 3 ปี (OMT)
จะยังไม่เริ่มต้นและไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาดสินทรัพย์ทางการเงิน
ฉะนั้น สเปนถือเป็นตัวแปรสำคัญเนื่องจากเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่
ขณะเดียวกันในส่วนของภาคธนาคารหลังหนี้เสียก็ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น
และปัญหาภายในประเทศสเปนที่กำลังโดนกดดันอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการรัดเข็มขัด
ทำให้ประชาชนไม่พอใจ จึงทำให้การตัดสินใจรับเงินล่าช้าออกไป
ขณะที่ความสามารถในการกู้ยืมใหม่ก็ทำได้ยากขึ้นเนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว


ส่วนเยอรมันและฝรั่งเศสก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการเข้าช่วยเหลือธนาคารในยุโรป
ว่าจะเข้าช่วยทั้งหมด หรือช่วยบางส่วน โดยเข้าไปการกำกับดูแลเฉพาะธนาคารรายใหญ่ๆ เท่านั้น
ในขณะที่กรีซมีข่าวว่าอาจจะมีเงินไม่พอใช้ อีกทั้งผลรายงานของทรอยก้าอาจจะเลื่อนออกไป
โดยเจ้าหน้าที่และนักการทูตหลายคนของสหภาพยุโรป (อียู) เห็นพ้องต้องกันว่า
รายงานของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี), ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ในประเด็นที่ว่าหนี้สินของกรีซสามารถบริหารจัดการได้หรือไม่นั้น
มีแนวโน้มว่าจะถูกเลื่อนออกไป จนกว่าหลังวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายไม่ต้องการที่จะสร้างความตื่นตระหนกต่อเศรษฐกิจโลกก่อนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
ซึ่งในระหว่างนี้ กรีซจะได้รับสภาพคล่องจากการออกตั๋วเงินคลังระยะสั้น
และธนาคารกรีซจะสามารถเข้าถึงเงินทุนฉุกเฉินของธนาคารกลางกรีซได้

เมื่อหันมาดูด้านปัจจัยในสหรัฐฯ อาจค่อนข้างเงียบ
โดยนักลงทุนรอดูเม็ดเงินจากมาตรการ QE3 ที่น่าจะเข้ามาก้อนแรก 4 หมื่นล้านยูโรในสิ้นเดือน ก.ย. นี้

ฮิโรฮิเดะ ยามาคูจิ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ เผยว่าธนาคารกลางจะใช้นโยบายการเงินที่จำเป็น
หากความเคลื่อนไหวของสกุลเงินส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและแนวโน้มราคาของประเทศ
อย่างไรก็ดี บีโอเจไม่มีนโยบายที่จะสร้างอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
เนื่องจากกฎของธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุไว้ว่า
ธนาคารควรจะพุ่งเป้าไปที่การสร้างเสถียรภาพด้านราคาภายในประเทศ
ไม่ใช่การสร้างเสถียรภาพด้านอัตราแลกเปลี่ยน

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 13.00 น. ดัชนี​ความ​เชื่อมั่น​ผู้บริ​โภคเยอรมัน (GfK German Consumer Climate)
• เวลา 15.30 น. ยอดจดจำนองในอังกฤษ (BBA Mortgage Approvals)
• เวลา 20.00 น. ดัชนีราคาบ้านในสหรัฐฯ (S&P/CS Composite-20 HPI)
• เวลา 21.00 น. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ  (CB Consumer Confidence)
• เวลา 21.00 น. ดัชนีภาคการผลิตสาขาริชมอนด์ (Richmond Manufacturing Index)

***

ฝากนักเทรดช่วยกด Like (ถูกใจ) ให้ที่ Facebook Life Book สักหน่อยครับ


คงไม่เป็นการรบกวนเวลามากเกินไปเนอะ
ผมก็ให้รู้สึกเกรงใจยิ่ง กระนั้นก็อยากหยั่งวัดดูว่ามีคนสนใจอ่านบล็อกนี้หรือไม่--
หรือพอมีเสียงตอบรับสักเล็กน้อยก็ยังดี เพื่อเป็นพลังและกำลังใจต่อไป...
อย่างน้อยๆ ก็มีปฏิกิริยากันบ้าง ไม่งั้นจะดูเงียบๆ และพร่ำเรื่อยไปฝ่ายเดียว

Click กดถูกใจ หนังสือมือสองโชห่วย กันบ้างนะครับ
ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน หรือมุ่งหมายค่าคอมมิชชั่น หรือหวังประโยชน์โลภผลอันใด
ขอแค่ น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ คนละนิดละหน่อยพอ... ไทยช่วยไทยเพื่อคนไทยกันเอง
เพราะผมทำบล็อกขึ้นมาก็ไม่ได้แอบแฝงเรื่องการหาเงินรายได้จากนักเทรดชาวไทย
สร้างบล็อกขึ้นมาก็เพียงแค่เป็นทางเลือกเล็กๆ ที่อาจพอช่วยเหลือในการเปิดออเดอร์ในแต่ละวันได้บ้าง
ด้วยปัจจัยด้านข่าวสารนั้นมีบทบาทต่อความผันผวนหรือขึ้นลงของราคาในสกุลเงินต่างๆ
ขณะปัจจัยทางเทคนิคก็มีความสำคัญส่วนหนึ่ง อินดิเคเตอร์ก็มีส่วนเกื้อหนุนหรือเป็นเข็มทิศเช่นกัน

ทุกคนที่ลงทุนก็หมายต่างหวังอยากได้ "กำไร" กันทั้งนั้น
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคงไม่ใช่คนทุกคนจะทำกำไรกันถ้วนทั่ว
เมื่ออีกฝั่งหนึ่งได้ ก็ต้องอีกฝ่ายหนึ่งที่เสีย แต่อยู่ที่ว่าคนที่ได้หรือเสียจะเป็นใคร...คือใคร...

ถ้า (สังเกต) รูปหน้าบล็อกนี้...
จะเห็นว่ามีรูปผู้ชายเสมือนเป็นนักลงทุนที่ปากคาบบุหรี่ มือกดเครื่องเล่นเกมส์
หน้าตาเอาจริงเอาจังแถมสนุกขณะมองแท่งเทียนข้างหน้า
ส่วนฉากหลังที่เป็นจอโทรทัศน์ 6 จอนั้น ก็ดูเป็นภาพที่ขัดแย้งกัน ทว่าก็ซ่อนความนัยไว้

บางทีราคากราฟที่เคลื่อนไหวนั้น อาจมาจากความสูญเสีย อุทกภัย ความอดอยาก
ความยากจน ความแห้งแล้ง โรคระบาด หรือการประท้วงที่รุนแรงของประเทศนั้นๆ
ขอจบดื้อๆ แล้วกัน เพราะโลกแห่งการลงทุนบางทีก็โหดร้ายเหลือจะกล่าว...
ด้วยกำไรที่ได้มานั้นอาจมาจากสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ หรือภัยพิบัติต่างๆ ก็ได้

.






Forex 24 ก.ย.

Forex คู่ EUR/USD กับ GBP/USD หรือ EUR/JPY
สัญญาณ MACD และ Stoch ในไทม์เฟรม Daily ช่างน่าลุ้นเหลือเกิน

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เมื่อเทียบกับยูโร
ในช่วงการซื้อขายที่ตลาดเงินเมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน
ซึ่งยูโรขยับขึ้นก่อนจะร่วงลงในที่สุด โดยก่อนหน้ายูโรได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า
รัฐบาลสเปนอาจจะขอความช่วยเหลือทางการเงินในเร็วๆ นี้
ซึ่งที่สุดสเปนก็ยังคงไม่แสดงความชัดเจนเรื่องการขอความช่วยเหลือเต็มรูปแบบ

โดยในวันศุกร์ มีข่าวบวกจากการที่สเปนเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาการตรึงเงินบำเหน็จบำนาญ
และเร่งแผนการเพิ่มอายุการเกษียณ ตลอดจนเริ่งผลักดันการลดค่าใช้จ่ายลง
ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการช่วยเหลือระหว่างประเทศของ ECB
เพื่อเปิดทางให้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารกลางยุโรปนั่นเอง
แต่สุดท้ายก็มีข่าวออกมาอีกครั้งว่าสเปนยังไม่รีบร้อนในการขอความช่วยเหลือใดๆ
ขณะที่เมื่อวันเสาร์ ชาวสเปนกว่าครึ่งล้านคนได้ออกมาประท้วงกันตามท้องถนนของกรุงมาดริด
ซึ่งประกอบด้วยสหภาพแรงงานที่สำคัญและองค์กรต่างๆ อีกกว่า 150 แห่ง
ฉะนั้น ปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องสเปนจะขอรับความช่วยเหลือหรือไม่
ส่วนในสหรัฐฯ ก็ต้องติดตามรายงาน GDP ไตรมาส 2 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้าย
และตัวเลขในภาคอสังหาริมทรัพย์ 


ในวันที่ 27 ก.ย. สเปนกับคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยเรื่องการปรับโครงสร้าง
ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนอีกครั้งหลังวันดังกล่าว และต้องตามดูว่า...
รัฐบาลสเปนจะแถลงการปฎิรูปเศรษฐกิจและการคลัง รวมถึงโอกาสขอความช่วยเหลือในวันดังกล่าวหรือไม่
อีกทั้งจะมีการแถลงผลทดสอบธนาคาร (Stress Test) ของสเปนในวันดังกล่าวด้วย
โดยมีการคาดกันว่าภาคธนาคารสเปนต้องการเงินทุน 6 หมื่นล้านยูโร ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงจะเป็นข่าวบวก
เนื่องจากเม็ดเงินนั้นน้อยกว่างบช่วยธนาคารสเปน 1 แสนล้านยูโร

ส่วนเยอรมนีและฝรั่งเศสเห็นพ้องกันเกี่ยวกับบทบาทของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
ในฐานะผู้กำกับดูแลด้านภาคธนาคารโดยรวม
แต่ทั้งสองประเทศก็มีความเห็นต่างกันเกี่ยวกับขอบเขตและความรวดเร็วของการกำกับดูแล
โดยฝรั่งเศสต้องการให้อีซีบีกำกับดูแลธนาคารทั้ง 6,000 แห่งในยูโรโซน
ขณะที่เยอรมนีต้องการให้มีการกำกับดูแลเฉพาะธนาคารรายใหญ่ๆ ที่มีผลกระทบต่อยูโรโซนโดยรวมเท่านั้น

นิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมนีได้รายงานว่า รัฐบาลของประเทศสมาชิกยูโรโซน
กำลังวางแผนที่จะเพิ่มเงินทุนของกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) สู่ระดับ 2 ล้านล้านยูโร
เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหา ทั้งยังระบุอีกว่า
เหล่ารัฐบาลในยูโรโซนต้องการที่จะเพิ่มศักยภาพของ ESM เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้
ซึ่งตอนนี้ลุกลามไปยังประเทศสมาชิกที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สเปน
โดยในปัจจุบัน ESM มีวงเงินอยู่ที่ 5 แสนล้านยูโร

WTO ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของการค้าทั่วโลกปี 2555 ลง
เหลือเพียง 2.5% จากระดับก่อนหน้านี้ที่ 3.7% โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากวิกฤตหนี้ในยุโรป
นอกจากนี้ WTO ยังปรับลดอัตราการขยายตัวในปีหน้าลงเหลือ 4.5% จาก 5.6%
ซึ่งเป็นการปรับทบทวนตัวเลขลงอย่างมาก

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้
• เวลา 15:00 น. ดัชนีสภาพแวดล้อมธุรกิจเยอรมนี (German Ifo Business Climate)

21 กันยายน 2555

วันนี้ ​ไม่มี​รายงานข้อมูล​เศรษฐกิจที่สำคัญ

สองสามวันมานี้ นักลงทุนเริ่มแห่​เข้าถือครองสกุล​เงินดอลลาร์สหรัฐ​
ซึ่ง​เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย​ในยามที่​เกิดกระ​แส​ความวิตกกังวล​เรื่อง​แนว​โน้ม​เศรษฐกิจ​โลก
ทำให้สกุล​เงินดอลลาร์สหรัฐ​แข็งค่าขึ้น​เมื่อ​เทียบกับสกุล​เงินหลักๆ ​
ใน​การซื้อขายที่ตลาดปริวรรต​เงินตรานิวยอร์ก​เมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.)
​เนื่องจากข้อมูลที่บ่งชี้​ถึง​การชะลอตัวและซบเซาของ​เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยู​โร​โซน ​และจีน ​
โดยล่าสุดข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐฯ และจีนหดตัวลงต่ำกว่าที่คาด
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ก็ออกมาสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้
แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังไม่ยั่งยืน
เป็นการตอกย้ำว่าเฟดจะดำเนินการซื้อพันธบัตร (QE3) ไปจนกว่าการว่างงานจะลงมาใกล้ระดับดุลยภาพ 
ขณะที่ดัชนีชี้นำ​เศรษฐกิจสหรัฐฯ จาก Conference Board ปรับตัวลง 0.1% ในเดือนส.ค. 
  บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แทบไม่มีความเคลื่อนไหว

ด้านธนาคารกลาง​เดนมาร์ก
ได้ทำการปรับลดคาด​การณ์​การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย​ในประ​เทศ (GDP) ​ในปีนี้
ซึ่งปรับลงมาอยู่ที่ระดับ 0.3% จากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.2% ​
เนื่องจากภาค​เอกชน​และ​ผู้บริ​โภคปรับลด​การ​ใช้จ่ายลง เริ่มรัดเข็มขัด
อัน​เนื่องมาจากผลกระทบ​ในด้านลบของวิกฤต​การณ์ทาง​การ​เงินในยูโรโซน

ส่วนปัจจัยสำคัญในยุโรปยังอยู่ที่สเปน ซึ่งได้มีการประมูลพันธบัตร 3 ปี และ 10 ปี โดยผลตอบรับค่อนข้างดี
แต่ให้จับตาในวันที่ 27 ก.ย. นี้ เพราะสเปนจะมีการประชุมและแถลงนโยบายปฎิรูปเศรษฐกิจ
ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนว่าสเปนจะขอรับความช่วยเหลือเต็มรูปแบบจากกลุ่มยุโรปหรือไม่
และในวันที่ 28 ก.ย. จะมีการประชุมระหว่างผู้นำกรีซ อิตาลี สเปน (ประเทศที่มีปัญหาการเงินทั้งนั้น)
ก่อนการประชุมผู้นำยูโรโซนวันที่ 18 – 19 ต.ค.

ทั้งนี้ มีปัจจัยบวกเรื่องที่จีนยืนยันจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลของยุโรปหรือกองทุน EFSF
และพร้อมช่วยเหลือให้ยุโรปกลับมาฟื้นตัวได้

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า
ผลกระทบจาก QE3 กับภาคการเงินไทย คือ ราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
และยังมีความผันผวนต่อเนื่อง เงินทุนยังคงไหลเข้า
ส่งผลเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยธนาคารมองว่า...เงินบาทสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 29.5 บาทต่อดอลลาร์

วันนี้ ​ไม่มี​รายงานข้อมูล​เศรษฐกิจที่สำคัญ


20 กันยายน 2555

วันนี้ ประมูลพันธบัตรสเปน

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3014 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากมีการรายงานว่า
รัฐบาลเยอรมนีกำลังมองหาทางที่จะทำให้การรวมกันของธนาคารยูโรโซนที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ลดความสำคัญลง
อีกทั้งการแก้ปัญหายุโรปของภาครัฐที่ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร จึงส่งผลกดดันบรรยากาศการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่มาตรการ QE3 ที่สร้างความหวังในตลาดบ้านและสร้างความหวังกับราคาทองคำก็ยังเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญ
โดยหลังมาตรการ QE3 ของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความผันผวนของระบบสกุลเงินต่างๆ
จึงส่งผลให้ธนาคารกลางอื่นๆ พยายามกดค่าเงินของประเทศตนเองลง
ขณะที่ตลาดรอการเข้าซื้อพันธบัตรของ ECB หลังจากที่มีการอนุมัติการเข้าซื้อไปในการประชุมครั้งก่อน
ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสำคัญต่างๆ
จะเป็นตัวกระตุ้นให้การเก็งกำไรค่าเงินย้ายการลงทุนเข้าสู่ตลาดทองคำเพิ่มมากขึ้น

ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ขยายวงเงินการซื้อคืนพันธบัตรเป็น 80 ล้านล้านเยน
จากเดิม 70 ล้านล้านเยน พร้อมคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.1%
ในขณะที่สหรัฐฯ ได้ปัจจัยบวกจากยอดขายบ้านมือสองส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 7.8% สู่ระดับ 4.82 ล้านยูนิตต่อปี
ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่าสองปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 53
ทั้งนี้การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ถือเป็นสัญญาณบวกมากต่อแนวโน้มระยะกลางถึงยาว
เนื่องจากภาคอสังหาฯ ถือเป็นดัชนีชี้นำของเศรษฐกิจในประเทศ



ในช่วงบ่ายวันนี้ ต้องตามข่าว
การประมูลพันธบัตรระยะยาวของสเปนมูลค่า 3.4-4.5 พันล้านยูโร
ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญของสเปนว่า
จะต้องขอรับความช่วยเหลือเต็มรูปแบบในเร็วๆ นี้หรือไม่
หากสเปนขอรับความช่วยเหลือ
ก็จะได้ผลบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรปเข้าซื้อพันธบัตรสเปนให้
แต่ก็มีความเสี่ยงว่าเศรษฐกิจในประเทศจะหดตัวมากขึ้น
เพราะจะมีมาตรการประหยัดต่างๆ ที่จะตามมา

ในขณะที่ประเด็นเรื่องกรีซ มีรายงานล่าสุดว่าอาจใกล้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่ม Troika แล้ว

นายเดนนิส การ์ตแมน ผู้อำนวยการของหนังสือพิมพ์การเงินและสินค้าโภคภัณฑ์กล่าวว่า
การกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟดในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
ได้สร้างแรงกดดันให้กับธนาคารกลางญี่ปุ่นอย่างไม่มีทางเลือก จึงทำให้ต้องเจริญรอยตาม
เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีความรู้สึกตึงเครียดจากค่าเงินเยนที่แข็งค่า
และการแพร่กระจายของวิกฤตหนี้ในทวีปยุโรป 

สมาพันธ์องค์กรธุรกิจของสเปน (CEOE) รายงานว่า สเปนจะมีคนว่างงานเกือบ 6 ล้านคนในปี 2556
โดยข้อมูลระบุว่า แม้รัฐบาลสเปนได้ดำเนินการปฏิรูปตลาดแรงงาน
แต่การว่างงานก็จะยังคงเพิ่มขึ้น และในปี 2555 จะมีชาวสเปนที่ว่างงาน 5.8 ล้านคน

ธนาคารกลางสเปน รายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ของสเปนเป็นหนี้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
3.887 แสนล้านยูโร (5.104 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนสิงหาคม
เพิ่มขึ้น 3.5% จากระดับ 3.755 แสนล้านยูโรในเดือนกรกฎาคม
ซึ่งตัวเลขจากธนาคารกลางสเปนแสดงให้เห็นว่า
หนี้สินที่ภาคธนาคารของสเปนต้องจ่ายคืนให้กับอีซีบีเพิ่มขึ้น 5 เท่า
ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม 2554 ถึงสิงหาคม 2555 และถือเป็นสถิติสูงสุดสถิติใหม่ 
ขณะที่หนี้สาธารณะของรัฐบาลสเปนแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 75.9% ของ GDP ในไตรมาสสองของปีนี้
ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นนี้ เพราะรัฐบาลสเปนจำเป็นกู้ยืมเงินจากกองทุนช่วยเหลือยูโรโซน
เพื่อนำมาเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคารในประเทศนั่นเอง

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้
• 13.00 น. ดัชนีราคา​ผู้ผลิตเยอรมนี (German PPI)
• 14.00 น. ดัชนี​ชี้วัดภาคการผลิตและบริการในฝรั่ง​เศส (French Flash Manufacturing & Services PMI)
• 14.30 น. ดัชนี​ชี้วัดภาคการผลิตและบริการใน​เยอรมนี (German Flash Manufacturing & Services PMI)
• 15.00 น. ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตและบริการในยู​โร​โซน​ (Flash Manufacturing & Services PMI)
• 15.30 น. ตัวเลขยอดค้าปลีกในอังกฤษรายเดือน​ (Retail Sales)
• 19.30 น. จำนวน​ผู้ขอรับสวัสดิ​การว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ (Unemployment Claims)
• 20.00 น. ดัชนี​ชี้วัดภาคการผลิตในสหรัฐฯ (Flash Manufacturing PMI)
• 21.00 น. ผลสำรวจ​แนว​โน้มธุรกิจสหรัฐ​เดือนก.ย.จาก​เฟดฟิลา​เดล​เฟีย (Philly Fed Manufacturing Index)
• 21.00 น. ดัชนีชี้นำ​เศรษฐกิจสหรัฐฯ ​เดือนส.ค.จาก Conference Board (CB Leading Index)

.

19 กันยายน 2555

Forex 19 ก.ย.

ดูเหมือนตลาดฟอเร็กซ์จะเข้าสู่ช่วงพักฐานในระยะสั้น โดยราคายังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ
เพื่อรอดูปัจจัยสำคัญๆ ทางฝั่งยุโรป โดยเฉพาะการประชุมบอร์ดกองทุน ESM ครั้งแรกในวันที่ 8 ต.ค.
แต่เห็นข่าว forexfactory ของวันพรุ่งนี้ (พฤหัสฯ) แล้วไม่น่าเทรดเอาซะเลย

เมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3032 ดอลลาร์/ยูโร
เพราะมีข่าวลือที่ว่า รัฐบาลสเปนอาจไม่ตกลงในเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดที่จะมาพร้อมกับเงินช่วยเหลือจากอีซีบี
จึงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 6%
แต่ปัจจัยข่าวลบดังกล่าวนี้ก็ถูกบดบังความสำคัญลงไปได้เช่นกัน
เมื่อตัวเลขความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในเยอรมันและยุโรปที่ปรับตัวสูงขึ้นโดนออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์

ขณะนี้ ความสนใจของนักลงทุนต่างๆ เปลี่ยนไปจับตาประเทศสเปนเป็นประเด็นโฟกัส
โดยการทดสอบสำคัญของสเปนจะอยู่ที่การประมูลพันธบัตร (Spanish 10-y Bond Auction) ในวันพรุ่งนี้ว่า
ดอกเบี้ยพันธบัตรที่ประมูลได้จะสูงขึ้นหรือไม่ และได้รับการตอบรับที่ดีหรือเปล่า
ซึ่งเมื่อวานนี้ สเปนประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือนที่ 2.835% ลดลงจาก 3.07% ในการประมูลเมื่อเดือน ส.ค.
ขณะรัฐบาลสเปนยังลังเลที่จะขอความช่วยเหลือทางการเงินจากยุโรป
ซึ่งก็จะทำให้ธนาคารกลางยุโรปยังไม่เข้าซื้อพันธบัตรสเปนแต่อย่างใด
ล่าสุดยอดหนี้ของธนาคารกลางสเปนที่ขอกู้ ECB เดือนส.ค. เพิ่มขึ้นอีก 3.5% จากเดือนก่อนหน้า

ดังนั้นปัญหานี้สเปน และการให้เงินช่วยเหลือรอบถัดไปของกรีซ รวมถึงประเด็นกังวลอื่นๆ จากฝั่งยุโรป
ก็ยังมีแนวโน้มจะเข้ามารบกวนตลาดเป็นระยะๆ และอาจเกิดความผันผวนได้
ทว่าปัจจัยลบเหล่านี้น่าจะชัดเจนขึ้นหลังประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป (EU Summit) ในช่วงกลาง ต.ค. นี้



เห็นข่าวเกี่ยวกับราคาทองคำแล้วร้อนแรงและน่าจับตามองอย่างยิ่ง
เมื่อ นายไมเคิล วิดเมอร์ นักวิเคราะห์จาก แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินท์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า
มาตรการ QE3 แบบปลายเปิดนั้น ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนกว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะแข็งแรงเพียงพอที่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบาย
นอกจากนี้ ราคาทองคำอาจได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการ QE3 ในภาวะตลาดกระทิง
จนสามารถขึ้นไปสู่ระดับ 2,400 เหรียญต่อออนซ์ได้ในอีก 24 เดือนข้างหน้า
ส่วน ดอยซ์ แบงก์ ได้คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะสามารถขึ้นเหนือระดับ 2,000 เหรียญในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า
จากมุมมองที่เป็นบวกในเรื่องสภาพเศรษฐกิจโดยรวม โดยดอยซ์ แบงก์เชื่อว่า
การพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น
ตามมาด้วยความกังวลในเรื่องภาวะเงินเฟ้อ และความผันผวนจะเป็นปัจจัยตามมา
โดยนักลงทุนต่างๆ รอการปรับตัวลดลงของราคาทองคำเพื่อเป็นโอกาสในการเข้าช้อนซื้อ
กระนั้น ภาวะตลาดกระทิงที่ชัดเจนของทองคำอาจกำจัดนักลงทุนที่อ่อนแอออกไป
เมื่อตลาดมีการดึงราคากลับมาอีกครั้ง โดยขณะนี้ตลาดอยู่ในภาวะ Overbought และจะมีการปรับฐานในบางขณะ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้
• เวลา 15.30 น. ผลการประชุมนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (MPC Meeting Minutes)
• เวลา 19.30 น. ตัวเลขใบอนุญาตก่อสร้างอาคารในสหรัฐฯ (Building Permits)
• เวลา 19.30 น. ตัว​เลข​การ​เริ่มสร้างบ้านในสหรัฐฯ (Housing Starts)
• เวลา 21.00 น. ยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐ​ฯ (Existing Home Sales)
• เวลา 21.30 น. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ (Crude Oil Inventories)

.

18 กันยายน 2555

Forex 18 ก.ย.

ตลาดฟอเร็กซ์สัปดาห์นี้น่าสนใจและน่าตามติดแบบระทึกยิ่ง
เพราะสกุลเงินทั้ง EUR, GBP และ CHF ล้วนแข็งค่าขึ้นมาแรง
ซึ่งสัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญคงต้องจับตาความคืบหน้าเรื่องแนวทางแก้ปัญหาหนี้สหภาพยุโรป
โดยเฉพาะการทำงานของ ECB ซึ่งเชื่อว่าจะมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นหลังความชัดเจนของกองทุน ESM
ตลอดจนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นซึ่งอาจจะมีการเข้าแทรกแซงค่าเงินเยน

เมื่อวาน ตัวเลขดุลการค้าในอิตาลีปรับตัวสูงขึ้นเป็น 4.49 พันล้าน จาก 2.52 พันล้าน
ส่วนตัวเลขดุลการชำระเงินสหภาพยุโรปที่ลดลงเหลือ 9.7 พันล้าน จาก 12.7 พันล้าน
และตัวเลขดุลการค้าระหว่างประเทศสหภาพยุโรปที่ปรับตัวลดลงเป็น 7.9 พันล้าน จาก 10.5 พันล้าน

นักลงทุนเริ่มกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก
เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมลดลงเหนือความคาดหมายสู่ระดับ -10.41 เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ลดลงมาก
นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนเริ่มมีมุมมองที่เป็นลบต่อยูโรอีกครั้ง
ซึ่งก็มาจากความกังวลที่รัฐมนตรีคลังของกลุ่มสหภาพยุโรป (EU)
ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับรายละเอียดการให้เงินช่วยเหลือประเทศต่างๆ ในยูโรโซน
ที่ดูเหมือนจะมีความเห็นไม่ลงรอยกันมากขึ้น
โดยนักลงทุนบางส่วนเริ่มวิตกว่า QE3 และมาตรการช่วยเหลือจากยุโรป
อาจยังไม่รุนแรงพอที่จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นขึ้นอย่างเต็มตัวได้
ทั้งนี้ อาจจะมีแรงขายทำจากการเก็งกำไรค่าเงินออกมาบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตลาดฟื้นขึ้นมาแรง

ในช่วงนี้ ความสนใจของตลาดจะเปลี่ยนกลับไปทางยุโรปอีกครั้ง โดยเฉพาะสเปน
หลังจากดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสเปนเพิ่มขึ้นสู่ 6.0% อีกครั้ง (5.7% เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว)
เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจต่อจุดยืนและการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรีสเปนว่า...

จะขอความช่วยเหลือเต็มรูปแบบจากกลุ่มยุโรปหรือไม่
โดยหากสเปนต้องการให้อีซีบีเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นตามโปรแกรม OMT
สเปนก็จำเป็นต้องขอการความช่วยเหลือเต็มรูปแบบซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ต้องปฏิบัติ
ฉะนั้น ให้ติดตามผลการประมูลตั๋วเงินคลังของสเปนมูลค่า 3.5-4.5 พันล้านยูโรในวันนี้
และการประมูลพันธบัตรปริมาณเดียวกันในวันพฤหัสฯ (Spanish 10-y Bond Auction)
หากว่าดอกเบี้ยพันธบัตรปรับขึ้นอีก ก็ย่อมจะกดดันในแง่จิตวิทยาต่อยูโรโซนมากขึ้น


นายกรัฐมนตรี แอนโตนิส ซามาราส แห่งกรีซ ยืนยันว่า
การเดินออกจากกลุ่มยูโรโซนไม่ใช่ทางเลือกของกรีซ
โดยกรีซมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าต่อไปกับการปฏิรูปเศรษฐกิจแม้จะนำมาซึ่งความเจ็บปวดก็ตามที
“เราต้องสร้างความมั่นใจว่าเราจะดำเนินตามในสิ่งที่เราให้คำมั่น เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่พูดกันว่า
กรีซจะออกจากยูโรโซนนั้น ไม่ใช่ทางเลือกของเราแน่นอน”

ทั้งนี้ นายซามาราสก็ยอมรับว่ารัฐสภาไม่สามารถอนุมัติแผนลดงบประมาณได้ในขณะนี้
เพราะต้องสรุปกับฝ่ายการเมืองอื่นๆ ให้ได้ โดยจะต้องอนุมัติผ่านรัฐสภาเท่านั้น
ขณะด้านกลุ่มเจ้าหนี้ต่างยืนกรานว่ากรีซจะต้องปฏิบัติตามคำมั่นอย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะการรัดเข็มขัดตามกำหนดเวลาที่ให้ไว้ และยืนยันว่า...
คำร้องของกรีซที่ขอขยายเวลาการใช้นโยบายดังกล่าวออกไปสองปีนั้นไม่สามารถทำได้

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 15.30 น. ดัชนีราคาผู้บริโภคในอังกฤษ (CPI)
• เวลา 15.30 น. ดัชนีราคาผู้ค้าปลีกในอังกฤษ (RPI)
• เวลา 15.30 น. ดัชนีราคาบ้านในอังกฤษ (HPI)
• เวลา 16.00 น. ดัชนี​ความ​เชื่อมั่นทาง​เศรษฐกิจ​เยอรมนีจาก ZEW
• เวลา 19.30 น. ข้อมูลดุลบัญชี​เดินสะพัดสหรัฐ​ฯ ไตรมาส 2/2555 (Current Account)
• เวลา 21.00 น. ดัชนียอดขายบ้าน NAHB ในสหรัฐฯ (NAHB Housing Market Index)
• N/A ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมกำหนดน​โยบาย​การ​เงินวัน​แรก

.

17 กันยายน 2555

Forex 17 ก.ย.

ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอีกระลอกเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ในวันศุกร์
โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร
ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ในเชิงรุก

นายโจโน่ เรมมิงตัน ฮ็อบส์ นักวิเคราะห์จากฟาสต์มาร์เก็ต ได้อธิบายว่า
มาตรการ QE แบบปลายเปิดหมายถึงเฟดจะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบในทุกๆ เดือน
จนกว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวในระดับ 7% หรือต่ำกว่านั้น
ทั้งยังจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจนกว่าสภาพเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
โดยจะส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะราคาทองคำจะได้รับแรงสนับสนุนในส่วนนี้

การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ประกาศคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น
ให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2015
ทั้งเฟดยังประกาศว่าจะเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกัน
จากสัญญาจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
จนกว่าแนวโน้มในตลาดแรงงานจะปรับฟื้นตัวขึ้น
ประกอบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซนหลังการดำเนินมาตรการของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
ทำให้สกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้น 2.4%
เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน

ทั้งนี้ ยูโรปรับตัวขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเดือน ก.ย.นี้
โดยได้แรงหนุนจากการซื้อพันธบัตรของอีซีบี
และการที่ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีตัดสินรับรองกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM)

ขณะที่ล่าสุด ธนาคารพาณิชย์ของสเปนได้เป็นหนี้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) 3.887 แสนล้านยูโร
(หรือ 5.104 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 3.5% จากระดับ 3.755 แสนล้านยูโรในเดือน ก.ค.
ซึ่งตัวเลขหนี้จากธนาคารกลางสเปนนี้แสดงให้เห็นว่า...
หนี้สินที่ภาคธนาคารของสเปนต้องจ่ายคืนให้กับอีซีบีเพิ่มขึ้น 5 เท่าในช่วงระหว่างเดือน ส.ค. 2554 ถึงส.ค. 2555
นับว่าตัวเลขในเดือนที่แล้วถือเป็นสถิติสูงสุดสถิติใหม่ทีเดียว
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสเปนยังรายงานอีกว่า
หนี้ของรัฐบาลสเปนแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 75.9% ของจีดีพีในไตรมาสสองของปีนี้
ซึ่งตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเพราะรัฐบาลสเปนจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจากกองทุนช่วยเหลือยูโรโซน
เพื่อนำมาเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคารในประเทศนั่นเอง

ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมกันในสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดนโยบายการเงินของประเทศ
โดยกระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้เพิ่มความเป็นไปได้ว่าอาจมีการเข้าแทรกแซงตลาดในไม่ช้านี้
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยนในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเยนอ่อนค่าลงจากการคาดการณ์ว่า
ทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของเยนในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบดอลลาร์
ด้านเทรดเดอร์กล่าวว่า การคาดการณ์ที่ว่าบีโอเจอาจผ่อนคลายนโยบายลงตามเฟดในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มที่จะกดดันค่าเงินเยน

นายมาริ​โอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุ​โรป (อีซีบี) ระบุว่า​
การประกาศ​แผนซื้อพันธบัตรครั้งล่าสุดของอีซีบี​ได้หนุน​ความ​เชื่อมั่นต่อยู​โร​โซน​และสกุล​เงินยู​โร​ในตลาด​โลก
โดย​ผู้จัด​การกองทุนต่าง​ก็นำ​เม็ด​เงินกลับมาลงทุน​ในยุ​โรป ​ซึ่งนับ​เป็น​เรื่องที่ดีสำหรับ​เศรษฐกิจของยู​โร​โซน
ขณะที่มี​ความคืบหน้าอย่างมากด้าน​การปฏิรูป​ในส​เปน​และอิตาลี ​
โดย​เฉพาะ​เมื่อพิจารณา​ถึงสิ่งที่​ได้ดำ​เนิน​การ​ในช่วง 6 ​เดือนที่ผ่านมา​เทียบกับสิ่งที่​ได้ดำ​เนิน​การมา​เป็น​เวลาหลายปี

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 15.00 น. ข้อมูล​การค้าระหว่างประ​เทศของอิตาลี​เดือน ก.ค. (Italian Trade Balance)
• เวลา 15.00 น. ดุล​การชำระ​เงินสหภาพยุ​โรป​เดือน ก.ค. (Current Account)
• เวลา 16.00 น. ข้อมูล​การค้าระหว่างประ​เทศสหภาพยุ​โรป​เดือน ก.ค. (Trade Balance)
• เวลา 19.30 น. ดัชนีภาวะธุรกิจ​โดยรวม​เดือน ก.ย. จาก​เฟดนิวยอร์ก (Empire State Manufacturing Index)

.






14 กันยายน 2555

FED QE3

ตลาดรับข่าวที่เฟดจะประกาศ QE3 มาล่วงหน้าระดับหนึ่งแล้ว
นักลงทุนจึงให้น้ำหนักกับข่าวนี้ในเชิงประคองขาขึ้นมากกว่าจะขึ้นอย่างร้อนแรง
เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงรุกเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ



สกุลเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงต่ออีกเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ 
ในการซื้อขายที่ผันผวนเมื่อวานนี้
โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เมื่อเทียบกับเยน 

และระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เมื่อเทียบกับยูโร



...ในที่สุด
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ก็ผ่านพ้นไปอีกครั้ง
พร้อมกับการประกาศโครงการเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามความคาดหมายของตลาด
ซึ่งเฟดระบุว่าจะเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS)
ในวงเงิน 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน โดยไม่ได้กำหนดระยะเวลาของมาตรการ
พร้อมทั้งยังขยายระยะเวลาสำหรับการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำออกไปถึงกลางปี 2015 ตามที่ตลาดคาดการณ์
แถมยังคงส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมที่จะออกมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมอีกในอนาคต หากมีความจำเป็น
การประกาศดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเฟดในการช่วยเหลือภาคธุรกิจและผู้บริโภค
ส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนได้อย่างชัดเจน และน่าจะส่งผลต่อเนื่องได้อีกด้วย

สำหรับเป้าหมายของการออกมาตรการ QE 3 ในรอบนี้เพื่อกระตุ้นการจ้างงานเป็นหลัก
ในขณะเดียวกันเฟดได้มีการปรับเพิ่มประมาณการ GDP ในปี 2556-58
ขึ้นเป็น +2.75% (เดิม 2.6%), +3.4% (เดิม 3.25%) และ +3.4% ตามลำดับ
โดยเฟดคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะลดลงเหลือ 7% ในปี 2557 และ 6.4% ในปี 2558
จากการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจและการจ้างงานใน 3 ปีข้างหน้าถือว่า
ธนาคารกลางสหรัฐฯ นั้นมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น
ทำให้นักลงทุนบางส่วนคาดว่าการประกาศ QE3 ในรอบนี้ซึ่งไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลา
น่าจะเป็นมาตรการสุดท้ายของเฟดในปี 2555 แล้ว
ซึ่งการประกาศครั้งนี้ เฟดน่าจะมีวัตถุประสงค์ในการรองรับความเสี่ยง
เกี่ยวกับการหมดอายุของมาตรการลดภาษีของสหรัฐฯ ในวันที่ 31 ธ.ค. 2555 ไปแล้ว
ทั้งนี้ เฟดเหลือการประชุมอีก 2 ครั้ง คือ 23-24 ต.ค. และ 11-12 ธ.ค. ปีนี้
ซึ่งในช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงมีโอกาสน้อยที่เฟดจะออกมาตรการใหม่อีก

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• การประชุม ECOFIN Meetings ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อเนื่องต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
• เวลา 16.00 น. ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซน (CPI)
• เวลา 19.30 น. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานสหรัฐฯ (Core CPI)
• เวลา 19.30 น. ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ (Retail Sales)
• เวลา 19.30 น. ดัชนีราคาผู้บริโภครายเดือนสหรัฐฯ (CPI)
• เวลา 20.15 น. อัตราการใช้กาลังการผลิตในสหรัฐฯ (Capacity Utilization Rate)
• เวลา 20.15 น. ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ (Industrial Production)
• เวลา 20.55 น. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ (Prelim UoM Consumer Sentiment)

เห็นข่าวอเมริกาช่วงค่ำๆ แล้ว ไม่รู้ว่าตัวเลขต่างๆ ที่ออกมาจะทำให้ตลาดเงินฟอเร็กซ์เป็นยังไง
ถ้าข่าวทางสหรัฐฯ ออกมาดี ก็น่าจะทำให้เงินยูโรหรือปอนด์อ่อนค่าลงได้บ้าง
ยิ่งวันนี้เป็นวันศุกร์ด้วย ศุกร์อาถรรพ์...แต่จะหลอนทางไหนนะ--><

.

13 กันยายน 2555

ผลประชุมเฟด 23.30 น.

เมื่อวานนี้ สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 1.2936 เมื่อเทียบกับดอลลาร์
ซึ่งแนวโน้มของเงินยูโรที่จะแข็งค่าหรืออ่อนค่าลงนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับผลการประชุมของเฟดว่าจะออกมาตรการกระตุ้นด้านการเงินรอบใหม่ในคืนนี้หรือไม่

ในที่สุด คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีรับรองกลไกสร้างเสถียรภาพยุโรป ESM
ว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของตลาดในช่วงก่อนหน้านี้
โดยศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีได้ตัดสินว่า รัฐบาลสามารถดำเนินการใช้กองทุน ESM
ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือทางการเงินถาวรของยุโรปที่จะมีศักยภาพการให้กู้ยืมสูงสุดถึง 5 แสนล้านยูโร
แต่ศาลฯ มีเงื่อนไขกองทุน ESM จะต้องได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภาเสียก่อน
หากจะมีการเพิ่มการใช้วงเงินมากกว่า 1.9 แสนล้านยูโร (2.45แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปีของอิตาลีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับแต่เดือน มี.ค.
หลังมีคำตัดสินของศาลเยอรมนี
โดยอิตาลีประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปีได้ 9 พันล้านยูโร (1.1 หมื่นล้านดอลลาร์)
และตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 3 พันล้านยูโร (3.8 พันล้านดอลลาร์)


นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขายและรอจับตาผลการประชุม FOMC ในคืนนี้
เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หรือ QE3
ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดหมายในเชิงบวกว่า
จะมีการประกาศฯ หลังข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อน
โดยเทรดเดอร์หลายรายคาดหวังว่า เฟดจะมีการประกาศมาตรการ QE3 
ขณะที่นักลงทุนบางส่วนได้ลดการเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้นก่อนการตัดสินใจของเฟด
ผลสำรวจจากรอยเตอร์ระบุว่า มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่เฟดจะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาภาคแรงงานและนโยบายการคลังที่ไม่แน่นอน
จึงส่งผลให้มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะออกมาประกาศนโยบาย QE3 ในวันนี้
เนื่องจากการจ้างงานเป็นปัจจัยหลักสำหรับเฟด
เพราะฉะนั้น การที่ตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าที่คาดไว้
ทำให้เฟดมีเหตุผลที่ดีพอสำหรับการจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในตอนนี้
ถ้ามี QE3 ก็จะสงผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อน ขณะราคาโภคภัณฑ์และทองคำปรับขึ้น

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
•  เวลา 19.30 น. ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ (Producer Price Index หรือ PPI m/m)
•  เวลา 19.30 น. ยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐฯ (Unemployment Claims)
•  เวลา 19.30 น. ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐานของสหรัฐฯ (Core PPI)
•  เวลา 23.30 น. ประชุม FOMC และประกาศอัตราดอกเบี้ย (FOMC Statement & Federal Funds Rate)

.

12 กันยายน 2555

ศาลเยอรมนีอ่านคำวินิจฉัย 15.00 น.

ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีแถลงเมื่อวานนี้ว่า ศาลจะไม่เลื่อนการประกาศคำวินิจฉัยที่ว่า 
การจัดตั้งกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันนี้
แม้สมาชิกสภานิติบัญญัติรายหนึ่งยื่นคำร้องคัดค้านใหม่เข้ามาก็ตาม

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนี กำลังกุมอนาคตของยูโร โดยศาลจะตัดสินในวันนี้ว่า
กองทุนอีเอสเอ็ม จะสามารถดำเนินการต่อไปได้หรือไม่
หลังจากที่ได้เลื่อนคำตัดสินมานานหลายเดือนแล้ว

ภาพประกอบจากกรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ศาลรัฐธรรมนูญออกแถลงการณ์ว่า
ศาลจะอ่านคำวินิจฉัยในวันนี้ เวลา 10.00 น. ตามเวลาเยอรมนี (15.00 น.ตามเวลาไทย) ตามกำหนดเดิมที่วางไว้
ซึ่งหมายความว่า การยื่นคำร้องในนาทีสุดท้ายของ นายปีเตอร์ กอไวเลอร์ 
สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่ทำให้มีการเลื่อนคำตัดสินออกไปอีก

ศาลรัฐธรรมนูญในเมืองคาร์ลสรูเออ ได้ยกคำร้องของนายกอไวเลอร์ 
ซึ่งเขาได้ยื่นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศแผนซื้อพันธบัตรแบบไม่จำกัดจำนวน
ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติยูโรเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืม

นายกอไวเลอร์ระบุว่า เยอรมนีไม่ควรลงสัตยาบันรับรองกองทุนอีเอสเอ็ม
จนกว่าอีซีบีจะยกเลิกแผนการซื้อพันธบัตร
ซึ่งเขามองว่า เป็นภัยคุกคามต่องบประมาณของเยอรมนี
ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงควรเลื่อนการวินิจฉัยเกี่ยวกับกองทุนอีเอสเอ็ม
 
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

***

วันนี้...คงไม่มีข่าวอะไรจะสำคัญเท่ากับ...
ศาลเยอรมนีจะอนุญาตให้จัดตั้งกองทุน ESM เพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาหนี้ในยูโรโซนหรือไม่
ซึ่งมีบทความที่น่าสนใจและควรอ่านเพื่อประกอบการเทรด Forex
เชิญแมงเม่าอย่างเราๆ คลิกอ่าน 2 บทความนี้กันครับ


***

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 13.00 น. ดัชนีเงินเฟ้อเยอรมนี (German Final CPI)
• เวลา 15.00 น. ศาลเยอรมนีตัดสินประเด็นกองทุน ESM (German Constitutional Court Ruling
• เวลา 15.30 น. อัตราการว่างงานในอังกฤษ (Unemployment Rat)

.

11 กันยายน 2555

Forex 11 ก.ย.

ค่าเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวจากคาดหวังเรื่อง QE3 อาจกลับทางมาแข็งค่าหากไม่ได้มีมาตรการใดๆ ออกมา
และน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมอาจปรับลงด้วยเช่นเดียวกัน
โดยที่ตลาดเงิน ล่าสุด Dollar Index อ่อนค่าลงหนัก
แต่ล่าสุดปัจจัยลบเล็กๆ จากกรีซได้เข้ามาหยุดตลาดไว้ชั่วขณะ
เพราะการหารือของกรีซกับตัวแทนกลุ่มเจ้าหนี้ หรือแม้แต่รัฐบาลผสมของกรีซ
ไม่สามารถตกลงเรื่องการลดค่าใช้จ่ายลงได้ ส่งผลให้เงินยูโรปรับตัวลดลง ซึ่งจะรู้ผลอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปก็ปรับลงหลังรัฐบาลกรีซยังไม่บรรลุแผนปรับลดค่าใช้จ่ายเพื่อขอรับความช่วยเหลือรอบใหม่

เมื่อวาน (วันจันทร์) สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน
แต่อาจเป็นการร่วงลงระยะสั้นๆ เมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สกุลเงินยูโรทะยานขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือนในวันศุกร์
หลังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ
จึงกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนที่มีการคาดการณ์ว่า
เฟดอาจจะมีการเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3
หลังการประชุมสองวันที่สิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดีนี้ แต่คงมีการยืดเวลาตรึงดอกเบี้ยออกไปอีก


ฉะนั้น ช่วงนี้นักลงทุนอาจชะลอการเทรดก่อนที่จะทราบ
• 12 ก.ย. ผลตัดสินของศาลเยอรมันต่อกรณีกองทุนช่วยเหลือยูโรโซน ESM จะผ่านหรือไม่
• 13 ก.ย. ผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะมีการประกาศมาตรการซื้อพันธบัตรรอบใหม่หรือไม่

ทั้งนี้ความคาดหวังของตลาดค่อนข้างสูง โดยเกือบทุกสำนักวิเคราะห์คาดว่ากองทุน ESM จะได้รับอนุมัติ
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในสหรัฐฯ ประมาณ 60% คาดว่า
จะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟดในวันพฤหัสฯ นี้
สืบเนื่องจากรายงานตัวเลขการจ้างงาน (นอน-ฟาร์ม) เมื่อวันศุกร์ที่ผานมา ทำให้นักลงทุนคาดว่า
ในการประชุม FOMC จะมีการให้สัญญาณการทำ QE3 ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

นายจอร์จ โซรอส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ไฟแนนเชี่ยล ไทมส์ โดยได้กล่าวคำร้องขอ
ต่อรัฐบาลเยอรมนีให้นำพายูโรโซนออกจากภาวะถดถอยโดยการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
การสร้างการรวมกันทางการคลัง และการรับประกันพันธบัตรร่วม
หรือไม่เช่นนั้นก็ให้เยอรมนีเองออกไปจากสหภาพการเงินเพื่อรักษาอนาคตของยุโรปเอาไว้
ส่วน นายจิม โรเจอร์ นักลงทุนและผู้ก่อตั้งกองทุนควอนตั้มร่วมกับนายจอร์จ โซรอส
ได้กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC เมื่อวานว่า ในท้ายที่สุดจะต้องมีจ่ายเงินที่แพงเพื่อวิกฤตหนี้ยูโรโซน
ไม่ว่าอีซีบีจะเริ่มดำเนินการเข้าซื้อพันธบัตรหรือไม่ก็ตาม เนื่องจากระดับหนี้ได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ


ธนาคารกลางฝรั่งเศสคาดการณ์ว่า
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) มีแนวโน้มที่จะลดลง 0.1% ในไตรมาส 3 ปี 2555
ซึ่งจะทำให้ฝรั่งเศสอาจจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
โดยฝรั่งเศสจำเป็นต้องใช้เงิน 3 หมื่นล้านยูโร (3.83 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณให้ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 3% ในปี 2556
ทำให้บรรดาเหล่านักวิเคราะห์ออกมาคาดการณ์ว่า
ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอาจทำให้ฝรั่งเศสเกิดการขาดดุลเพิ่มขึ้น และทำให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นด้วย

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 12.30 น. ตัวเลขว่างงานนอกภาคเกษตรฝรั่งเศส (French Final Non-Farm Payrolls)
• เวลา 15.30 น. ยอดดุลการค้าในอังกฤษ (Trade Balance)
• เวลา 19.30 น. ยอดดุลการค้าสหรัฐฯ (Trade Balance)

.

10 กันยายน 2555

Forex 10 ก.ย.

สกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับยูโรในวันศุกร์
หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
เป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ส่งผลให้มีการคาดหมายถึงมาตรการที่แข็งกร้าวจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
ทำให้นักลงทุนพากันประเมินว่า เฟดจะออกมาตรการซื้อพันธบัตรรอบใหม่หรือไม่
หลังการประชุมนโยบาย FOMC ในสัปดาห์นี้


โดยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm) เดือน ส.ค.
เพิ่มขึ้นเพียง 96,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 125,000 ตำแหน่งพอควร
จึงช่วยกระตุ้นความมั่นใจของนักลงทุนต่อผลประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้ได้บ้าง
โดยจะมีการแถลงผลการประชุมในคืนวันพฤหัสบดี
ส่งผลให้โพลล์ของรอยเตอร์ปรับเพิ่มโอกาสการทำ QE3 ในการประชุมเฟดในวันที่ 12-13 ก.ย. เพิ่มเป็น 60%
กระนั้น อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ กลับลดลงสู่ระดับ 8.1% จาก 8.3% ในเดือน ก.ค.
ทำให้ความมั่นใจเรื่องมาตรการเพิ่มเติมดังกลาวยังมีไม่มากนัก
โดยหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทการเงินเมซิโรว์ในนครชิคาโกกล่าวว่า
รายงานการจ้างงานเพิ่มเล็กๆ น้อยๆ นี้เพียงพอที่จะเขย่าให้เฟดขยับตัวได้
"QE3 (มาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณรอบที่ 3) ใกล้เกิดขึ้นแล้ว"

ในคืนวันที่ 12 ก.ย. นี้ มีปัจจัยสำคัญที่ต้องตามติด คือ
ศาลเยอรมันจะตัดสินว่ากองทุนช่วยเหลือยุโรปเป็นการถาวร ESM นั้นขัดต่อกฎหมายเยอรมันหรือไม่
ซึ่งนักลงทุนเริ่มมีความหวังและความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อ ESM และมาตรการต่างๆ ที่ออกมาเสริม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการที่ ESM น่าจะผ่านศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันได้
การเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของอีซีบี หรือการที่สเปนอาจขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ

นายออลรี่ เรห์น คณะกรรมาธิการ European Monetary Affairs กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC เมื่อวานนี้ว่า
ภายหลังการประกาศมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรของอีซีบีในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
สเปนต้องมีการขอรับความช่วยเหลือก่อน
จากนั้นสมาชิกยูโรโซน ยูโรกรุ๊ป อีซีบี และไอเอ็มเอฟจึงจะมีการกำหนดเงื่อนไขที่ระบุเฉพาะเจาะจง
ในขณะที่ทางด้านอิตาลี นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า
เขาไม่คิดว่าอิตาลีจะมีการเข้าใช้แผนการเข้าซื้อพันธบัตรจากอีซีบีในเร็วๆ นี้

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้
• เวลา 13.45 น. ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมรายเดือนในฝรั่งเศส (French Industrial Productio)
• เวลา 15.30 น. ตัวเลขความเชื่อมั่นนักลงทุนในยุโรป (Sentix Investor Confidence)
• เวลา 02.00 น. ตัวเลขการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้บริโภครายเดือนในสหรัฐฯ (Consumer Credit)
• เวลา 06.01 น. ตัวเลขการสำรวจราคาบ้านในอังกฤษ (RICS House Price Balance) เช้าวันอังคาร

***

อีซีบีเผยแผนซื้อบอนด์รอบใหม่

ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยรายละเอียดของแผนเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ประสบปัญหาในการกู้เงินจากตลาด
แต่ยังคงตั้งเงื่อนไขให้รัฐบาลต้องเป็นฝ่ายขอรับเงินจากกองทุนช่วยเหลือก่อน
ด้านนักลงทุนแสดงความพึงพอใจต่อมาตรการแก้วิกฤติล่าสุดของอีซีบี
   
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
เปิดเผยรายละเอียดของมาตรการเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรล่าสุด
ภายใต้ชื่อ Outright Monetary Transactions (OMT)
ภายหลังการประชุมประจำเดือนในวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา โดยภายใต้มาตรการดังกล่าว
อีซีบีจะเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองที่มีอายุระหว่าง 1-3 ปีเท่านั้น
โดยไม่มีการกำหนดเพดานการซื้อล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเจ้าของพันธบัตรที่อีซีบีจะเข้าไปซื้อจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการช่วยเหลือของยูโรโซน
   
มาตรการซื้อพันธบัตรใหม่จะเข้ามาทดแทนมาตรการเดิมที่เรียกว่า Securities Markets Program
ซึ่งอีซีบีใช้เงินไปเป็นมูลค่า 2.09 แสนล้านยูโรในการซื้อพันธบัตรรัฐบาล
โดยนายดรากียืนยันว่า อีซีบีจะไม่มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ที่มีความสำคัญเหนือกว่าเจ้าหนี้รายอื่นในกรณีที่พันธบัตรซึ่งอีซีบีซื้อภายใต้มาตรการใหม่ต้องถูกปรับโครงสร้าง
 
นอกจากนี้ อีซีบีจะทดแทนการซื้อพันธบัตรด้วยการดึงเงินเป็นมูลค่าที่เท่ากันออกจากระบบ
หรือกระบวนการที่เรียกว่า Sterilization
การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อปกป้องตนเองจากข้อกล่าวหาว่า
อีซีบีพิมพ์เงินเพื่อนำไปให้รัฐบาลใช้หนี้ ซึ่งขัดต่อสนธิสัญญาสหภาพยุโรป
เพราะกระบวนการ Sterilization จะทำให้ซัพพลายของเงินในระบบอยู่ในระดับคงเดิม
การทำเช่นนี้จะทำให้มาตรการซื้อพันธบัตรของอีซีบีแตกต่างจากนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอังกฤษ
   
มาตรการล่าสุดของอีซีบีจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศที่กำลังประสบปัญหาในการกู้เงินอย่างสเปนและอิตาลี
หลังจากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา 

ต้นทุนกู้ยืมของทั้งสองประเทศพุ่งสูงขึ้นเกือบถึงระดับที่ถูกมองว่าไม่มีความยั่งยืน
อย่างไรก็ดี เวลานี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเหล่านี้ที่จะร้องขอความช่วยเหลือแลกกับการอยู่ภายใต้เงื่อนไขรัดเข็มขัด

   
แม้ว่ารายละเอียดบางส่วนของแผนซื้อพันธบัตรของอีซีบีจะเป็นไปตามความคาดหมาย
แต่ตลาดเงินตลาดทุนต่างสะท้อนความพึงพอใจต่อมาตรการดังกล่าว
ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสเปน
ลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในวันพฤหัสบดี (6 ก.ย.) มาอยู่ที่ 6.04% จาก 6.09%
ก่อนการประชุมอีซีบีจะเริ่มต้นขึ้น ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของสเปนก็ลดลงมาจาก 2.94% เป็น 2.87%
   
การเคลื่อนไหวของพันธบัตรระยะยาวนับว่ามีความสำคัญ
เพราะมาตรการของอีซีบีพุ่งเป้าไปที่พันธบัตรระยะสั้นเท่านั้น
ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่ลดต่ำลงหมายความว่านักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยว่า
การเข้าแทรกแซงของอีซีบีจะนำไปสู่ทางแก้ปัญหาของวิกฤติยูโรโซนที่ซับซ้อน
"โดยรวมแล้ว อีซีบีนำเสนอเครื่องมือในการแก้ปัญหาใหม่ที่น่าจะช่วยซื้อเวลาได้"
คาร์สเทน เบอร์เซสกี นักเศรษฐศาสตร์จากไอเอ็นจีในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ให้ความเห็น
แต่กล่าวเตือนว่า มาตรการดังกล่าวคงเป็นการช่วยเหลือรัฐบาลที่อีซีบีทำได้มากที่สุดแล้ว
   
นายดรากีกล่าวเพิ่มเติมว่า อีซีบีจะขอความร่วมมือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ในการช่วยออกแบบเงื่อนไขของมาตรการใหม่
ซึ่ง นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวในแถลงการณ์ว่า
ไอเอ็มเอฟพร้อมร่วมมือภายใต้กรอบการทำงานของกองทุน
อย่างไรก็ตาม การเข้ามามีบทบาทของไอเอ็มเอฟอาจทำให้สเปนขอรับการช่วยเหลือยากลำบากขึ้น
เนื่องจากแรงกดดันทางการเมือง
   
นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน พยายามอย่างหนักที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้สเปน
ต้องถูกตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจากทรอยก้า หรือตัวแทนจากไอเอ็มเอฟ สหภาพยุโรป และอีซีบี
เหมือนเช่นกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส
"เราสงสัยว่าการเข้ามามีส่วนร่วมของทรอยก้าในมาตรการ OMT 
อาจจะส่งผลให้สเปนต่อต้านการขอรับความช่วยเหลือหรือไม่
ถ้าเป็นเช่นนั้น อาจจะต้องมีแรงกดดันจากตลาดให้สเปนตกลงเข้ารับความช่วยเหลือ" 

ริชาร์ด แมคไกวร์ นักยุทธศาสตร์จากโรโบแบงก์ กล่าว
   
ดังนั้นแม้ว่านักลงทุนจะตอบรับมาตรการของอีซีบี แต่ในอนาคตตลาดมีโอกาสเกิดความผันผวนขึ้นได้อีก
ถ้าสเปนพยายามระดมเงินทุนเพื่อมาใช้จ่ายให้ทันเดือนตุลาคมด้วยตัวเองโดยไม่ขอรับเงินช่วยเหลือ
ขณะที่นายราฮอยกล่าวภายหลังจากการหารือกับนางอันเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
ในช่วงเวลาเดียวกับที่อีซีบีมีการประชุมว่า
ผู้นำทั้งสองประเทศไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับเงื่อนไขการขอรับความช่วยเหลือใดๆ

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,773 9-12  กันยายน พ.ศ. 2555


.

7 กันยายน 2555

วันนี้ ข่าวนอน-ฟาร์ม

เหลือบมองดู World Market Watch ตารางด้านขวาบล็อกแล้ว ตลาดหุ้นเขียวกันถ้วนทั่ว
ขณะตลาดฟอเร็กซ์เงินยูโรกับปอนด์ก็แข็งค่าขึ้นตามๆ กันไป
โดยสกุลเงินยูโรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (เมื่อวาน)
ถือเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน
หลังจากอีซีบีแถลงโครงการซื้อพันธบัตรใหม่แบบไม่จำกัดวงเงินเพื่อยับยั้งวิกฤติหนี้ยูโรโซน
ทั้งนี้นักลงทุนได้คาดการณ์เกี่ยวกับแผนการดังกล่าวมาหลายสัปดาห์แล้ว และก็เป็นไปตามความคาดหมาย

ตลาดหุ้นโลกตอบรับเชิงบวกกันเป็นทิวแถว หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ประกาศโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนแบบไม่จำกัดจำนวน
หรือเรียกว่า Outright Monetary Transaction (OMT)
ซึ่งมีเป้าหมายซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่อายุ 3 ปี หรือสั้นกว่านั้น
เพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศต่างๆ ในยูโรโซนให้ลดลง  นอกจากนี้ ECB ยังประกาศ
ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ของการวางหลักประกันของสถาบันการเงินยุโรปที่จะกู้เงินจาก ECB
ด้วยการผ่อนคลายเรื่องอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตร และสกุลเงินของตราสารด้วย
ทั้งนี้ อีซีบีได้ชี้ว่ามาตรการ OMT ดังกล่าวจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับ
การที่กองทุนช่วยเหลือยุโรป EFSF/ESM เข้าซื้อพันธบัตรในตลาดแรก (ประมูลตรง) เท่านั้น
ซึ่งเรื่องนี้จะต้องติดตามต่อในวันที่ 12 ก.ย. ว่า
ทางศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมันจะเห็นชอบให้กองทุน ESM ดำเนินการได้หรือไม่
แต่ก็มีปัจจัยลบเล็กน้อยจาก ECB ที่ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ของยูโรโซนในปีนี้ลงสู่ระดับ 0.6-0.2%
ทั้งยังระบุว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวลง



สัปดาห์หน้าต้องติดตาม
1. ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมันเตรียมตัดสินเรื่องการออกกองทุนช่วยเหลือยุโรป
2. การประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรป
(คาดกันว่ากรีซอาจได้รับเงินช่วยเหลือ และสเปนเตรียมขอรับความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ)

ด้านสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อวานก็ออกมาดีขึ้นทีเดียว
โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการที่เพิ่มขึ้น
ทั้งตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานเอกชน ADP ต่างออกมาดีและแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดไว้
จึงทำให้ลดความเป็นไปได้ของมาตรการ QE3 ลงอีก
ซึ่งในการประชุมเฟดวันที่ 13 ก.ย. นี้ คงไม่ได้มีการประกาศมาตรการ QE3 ออกมาแต่อย่างใดแน่

ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ได้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% อีกครั้ง
ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตามความคาดหมาย
พร้อมทั้งจะยังคงดำเนินนโยบายปัจจุบันในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 5 หมื่นล้านปอนด์ต่อไป
ขณะที่ภาวะถดถอยของอังกฤษดูเหมือนจะชะลอลง

นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี ได้ออกมาแสดงท่าทีขานรับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
ที่ประกาศโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซน โดยกล่าวว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็น "เป็นก้าวที่สำคัญ"
เพื่อการรวมกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ให้แน่นแฟ้นขึ้น

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้
• เวลา 13.00 น. ยอดดุลการค้าในเยอรมนี (German Trade Balance)
• เวลา 13.45 น. ยอดดุลการค้าในฝรั่งเศส (French Trade Balance)
• เวลา 15.30 น. ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมในอังกฤษ (Manufacturing Production)
• เวลา 15.30 น. ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตรายเดือนในอังกฤษ (PPI Input)
• เวลา 17.00 น. ตัวเลขผลผลิตสภาอุตสาหกรรมในเยอรมนี (German Industrial Production)
• เวลา 19.30 น. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Employment Change)
• เวลา 19.30 น. อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ (Unemployment Rate)
• เวลา 19.30 น. ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงรายเดือนในสหรัฐฯ (Average Hourly Earnings)

.

6 กันยายน 2555

คาดการณ์ผลประชุม ECB

เมื่อวาน สกุลเงินยูโรขยับขึ้นมารอรับข่าวเกี่ยวกับ ECB พอควรแล้วในช่วงที่ผ่านมา
โดยนักลงทุนบางส่วนยังจะรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (นอน-ฟาร์ม) ของสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์นี้อีกครั้ง
ว่าจะช่วยหนุนแนวคิดการออกมาตรการเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐได้หรือไม่
โดยนายเบน เบอร์นันเก้ ประธาน FED ให้เหตุผลที่จะเพิ่มมาตรการจากการจ้างงานที่อ่อนแอ
ทำให้นักลงทุนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับตัวเลขด้านการจ้างงานที่จะรายงานในสัปดาห์นี้
เพราะจะมีผลต่อการคาดการณ์ผลการประชุม FOMC ในช่วงสัปดาห์หน้าอีกครั้ง


วันนี้ นักลงทุนทุกตลาดคงเฝ้ารอผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประมาณ 1 ทุ่มของประเทศไทย
ทั้งนี้ความคาดหวังต่อการประกาศมาตรการของ ECB อยู่ในระดับสูง
โดยมีการคาดว่าอีซีบีจะลดดอกเบี้ย Refi Rate 0.25% ในวันนี้
นอกจากนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่สองคนของ ECB ว่า
อาจมีการประกาศซื้อพันธบัตรอายุไม่เกิน 3 ปีโดยไม่จำกัดจำนวนโดยอาศัยการหมุนเงินเพื่อไม่ให้เป็นการอัดฉีดเงิน
เพื่อลดต้นทุนการเงินของประเทศยูโรโซน แต่ในทางปฏิบัติคงมีการซื้อตามที่จำเป็นมากกว่า
ทั้งยังชี้ว่าการซื้อพันธบัตรดังกล่าวอาจต้องมีการดึงเงินกลับจากภาคธนาคารในยุโรปในภายหลังด้วย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า นายดรากีอาจจะมีการกล่าวในคืนนี้ว่าอีซีบีจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเท่านั้น
โดยมีอายุครบกำหนดไถ่ถอนที่ประมาณไม่เกิน 3 ปี และจะไม่ตั้งกรอบในเรื่องอัตราผลตอบแทน
ตลอดทั้งไม่กำหนดขนาดของแผน  ทว่าแผนการเข้าซื้อพันธบัตรดังกล่าวอาจ “ไร้ผล”
จากพยุงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ให้เท่าเทียมกันกับจำนวนที่ใช้จ่ายไปกับพันธบัตร
ในขณะที่แผนดังกล่าวอาจไม่สามารถทำให้ตลาดสงบลงได้ในระยะยาว
หากสเปนไม่ยอมรับความช่วยเหลือทางการเงินในเร็วๆ นี้
ซึ่งสเปนได้บอกไว้แล้วว่า จะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจนกว่าจะทราบรายละเอียดของเงื่อนไข
โดยในขณะนี้สเปนก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะยอมรับในแผนของอีซีบีหรือไม่

คงจำกันได้ว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ได้ออกมากล่าวว่า
การเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นของอีซีบีไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎของสหภาพยุโรป
จึงมีการคาดหวังในวงกว้างว่าอีซีบีจะประกาศแผนครั้งต่อไปเพื่อจำกัดวงขยายของวิกฤตหนี้ยูโรโซนในการประชุมอีซีบีวันนี้
อย่างไรก็ตาม นายมาริโอ ดรากี ก็กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นเดียวกัน
เพราะนอกเหนือจากการประสานความสัมพันธ์ของผู้กำหนดนโยบายต่างๆ แล้ว
เขายังต้องรักษาคำพูดที่กล่าวไว้ว่าจะช่วยปกป้องเงินยูโรอีก

เมื่อวานนี้เยอรมนีสามารถประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้เพียง 3.61 พันล้านยูโร
น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 5 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอ
ในปริมาณความต้องการเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรปจากนักลงทุน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้
• เวลา 17.00 น. ยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานรายเดือนในเยอรมัน (German Factory Order)
• เวลา 18.00 น. ธนาคารกลางอังกฤษประกาศอัตราดอกเบี้ย (Official Bank Rate)
• เวลา 19.15 น. ตัวเลขคนว่างงานของสหรัฐฯ (ADP Non-Farm Employment Change)
• เวลา 19.30 น. ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ (Unemployment Claims)
• เวลา 21.00 น. ตัวเลขภาคการผลิต  (ISM Non-Manufacturing PMI)

ประมาณเวลา 18.45 - 19.00 น. การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางแห่งยุโรป

***

คาดการณ์ผลประชุม ECB

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในการประชุมธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB วันนี้
อีซีบีคงจะเข้าซื้อเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลเท่านั้น โดยไม่เข้าแทรกแซงสินทรัพย์ประเภทอื่น
รวมทั้งจะเข้าแทรกแซงเฉพาะพันธบัตรระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 3 ปี

นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป ได้แจ้งในที่ประชุมสภายุโรปว่า
อีซีบีจำเป็นที่จะต้องเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรเพื่อควบคุมระดับอัตราแลกเปลี่ยน
เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเขตยูโรโซนที่ใช้เงินสกุลเดียวกันจะสามารถคงอยู่ต่อไปได้
โดยเขาจะแถลงรายละเอียดของแผนการ หลังการประชุมอีซีบีในวันพฤหัสนี้ (วันนี้)
ซึ่งการยืนยันของนายดรากี ก็ทำให้ค่าเงินของยูโรแข็งค่าและทำให้หุ้นในตลาดยุโรปตอบรับในเชิงบวกด้วย

แต่อย่างไรก็ดี แผนการของ ECB ก็ยังไม่ง่ายนัก เมื่อนายดรากียังมีความคิดเห็นไม่ลงรอยในบางประเด็นกับ
นายเยนส์ เวียดมานน์ ซึ่งเป็นประธานธนาการกลางเยอรมันนี หรือ บุนเดสแบงค์
แต่ทางแหล่งข่าวก็บอกว่า 
การหารือระหว่างทั้งสองคนก็เป็นไปอย่างผ่อนคลายและน่าจะมองเห็นทางออกร่วมกันได้

โดยประเด็นที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงในประเด็นแรกก็คือจำนวนวงเงินของการเข้าซื้อพันธบัตร
ซึ่งนายดรากีต้องการให้ไม่มีการกำหนดวงเงินของการเข้าซื้อ
โดยอีซีบีสามารถเข้าซื้อพันธบัตรได้เรื่อยๆ ตราบใดที่ตลาดยังขาดความเชื่อมั่น
ในขณะที่คณะกรรมการอีซีบีบางส่วนอาจไม่เห็นด้วย ส่วนประเด็นถัดมา ก็คือ
เรื่องของระดับอัตราผลตอบแทนในแบบใดที่เรียกว่ามีปัญหาและอีซีบีต้องทำการเข้าไปแทรกแซงตลาด
รวมทั้งจะทำการเปิดเผยอัตราดังกล่าวให้กับสาธารณชนได้รับทราบหรือไม่
แต่สิ่งที่น่าจะเห็นตรงกันก็คือ 
ประเทศที่จะได้รับการช่วยเหลือผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรจะต้องลงนามในสัญญา
และปฏิรูปประเทศตามข้อกำหนด ซึ่งหากทำไม่ได้ ทางอีซีบีจะหยุดการช่วยเหลือทันที

ที่มา : money channel

.



.

5 กันยายน 2555

พรุ่งนี้ ลุ้นผลการประชุม ECB

และแล้วสกุลเงินยูโรก็ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันอังคารหลังปรับตัวขึ้นมาได้สองวัน
ขณะนักลงทุนเริ่มระมัดระวังมากขึ้นว่า แผนการของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ที่จะจัดการกับวิกฤติหนี้ยูโรโซนนั้นอาจจะขาดรายละเอียด หรือไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา

ฉะนั้น ความสนใจหลักของตลาดจึงจับจ้องไปที่การประชุมอีซีบีในวันที่ 6 ก.ย.
และข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐในวันที่ 7 ก.ย.

ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ซึ่งเทรดเดอร์ต่างๆ จะพากันมุ่งความสนใจไปที่การตัดสินใจในเรื่องอัตราดอกเบี้ยของสหภาพยุโรป
ในวันพฤหัสบดี (พรุ่งนี้) และการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐในคืนวันศุกร์นี้ เช่นกัน
เพื่อจะได้สะท้อนภาพการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
โดยวอลุ่มบางส่วนในแต่ละวันที่น้อยหรือจางลงไปในแต่ละตลาดนั้น
ย่อมสะท้อนภาพชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของปัจจัยได้เป็นอย่างดี
ขณะที่นักลงทุนแต่ละประเภทต่างเทรดกันบนความระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น
ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคาดว่าประธาน ECB จะเปิดเผยแผนลดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศที่มีหนี้สินสูงในยูโรโซน

เมื่อวาน สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
โดยดัชนีภาคการผลิต (ISM) หดตัวลงเหลือ 49.6 จุดจากเดือนก่อนหน้า 49.8
ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง (Construction Spending) ลดลง 0.9% แย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

เมื่อวานนี้ยังมีการประชุมกันระหว่างนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี
และนายฟรังซัวร์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเกี่ยวกับวิกฤตหนี้
ซึ่งทางนายมอนติได้ออกมากล่าวว่า
อียูต้องยอมรับว่าประเทศต่างๆ ที่ได้ปฏิบัติตามสัญญาควรได้รับการช่วยเหลือด้วยการกระจายพันธบัตร
ส่วนนายออลลองด์กล่าวเสริมว่า
กลุ่มผู้นำอียูควรตกลงยอมรับในเรื่องการแก้ไขปัญหาของกรีซและสเปนในการประชุมอียูซัมมิทเดือนตุลาคม
ซึ่งบทบาทของสถาบันอียู รวมไปถึงอีซีบีต้องมีการตัดสินใจดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อลดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ระหว่างประเทศของเยอรมนี (VDIK) เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นว่า
ยอดขายรถยนต์ใหม่ในเยอรมนีลดลง 4.7% ในเดือนส.ค.
ซึ่งสมาคมระบุว่า ยอดการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ลดลงสู่ระดับ 226,500 คันในเดือนส.ค.
ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่รวมทั้งหมดในรอบ 8 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ระดับ 2.1 ล้านคัน
ซึ่งลดลง 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (อ้างอิงจากรอยเตอร์)

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้
• เวลา 14.15 น. ดัชนีราคาผู้บริโภครายเดือนในสวิตฯ  (CPI)
• เวลา 14.45 น. ตัวเลขการจัดการจัดซื้อภาคบริการในอิตาลี (Italian Services PMI)
• เวลา 15.00 น. ตัวเลขการจัดการจัดซื้อภาคบริการในยูโรโซน (Final Services PMI)
• เวลา 16.00 น. ยอดค้าปลีกยูโรโซน (Retail Sales)
• เวลา 19.30 น. ตัวเลขผลผลิตนอกภาคการเกษตรรายไตรมาสในสหรัฐฯ (Revised Nonfarm Productivity)

วันนี้ยังมีการประมูลพันธบัตรของอังกฤษกับเยอรมันด้วย

.

4 กันยายน 2555

ข่าวฟอเร็กซ์ 4 ก.ย.

นักลงทุนต่างจับจ้องรอคอยการประชุมของ ECB ในวันพฤหัสฯ ที่ 6 ก.ย. นี้ อย่างใจดใจจ่อ
ล่าสุด ค่าเงินสกุลยูโรแข็งค่าขึ้น และเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
โดยตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB จะเปิดเผยรายละเอียดในการเข้าซื้อพันธบัตรรอบใหม่
หลังจากการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีที่ 6 ก.ย.
ซึ่ง นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ได้กล่าวว่า
การเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีกำหนดไถ่ถอนไม่เกิน 3 ปี ไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของสหภาพยุโรป
ซึ่งจากแถลงการณ์นี้ถือเป็นการลดอุปสรรคในแผนการเข้าซื้อพันธบัตร
ทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นยุโรปปรับบวกขึ้นได้
ทั้งนี้คงต้องตามในเย็นวันที่ 6 ก.ย. ว่าจะมีการประกาศมาตรการใดออกมาบ้าง
อย่างไรก็ดี ยูโรอาจเผชิญความเสี่ยงจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
และจากความเป็นไปได้ที่ผลการประชุมอีซีบีอาจสร้างความผิดหวังให้แก่ตลาด

ส่วนประเด็นของกองทุน ESM ในวันที่ 12 ก.ย. นั้น
นายโวล์ฟกัง ชอยเบล รมว.คลังของเยอรมัน ให้ความเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญเยอรมัน
น่าจะอนุมัติให้กองทุนดังกล่าวดำเนินการได้ ซึ่งจะเป็นพัฒนาการที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาในยุโรปในปีหน้า
ซึ่งความคาดหวังเชิงบวกเหล่านี้สะท้อนออกมาผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีและสเปนที่ปรับลดลง

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนและอิตาลีปรับตัวลง
ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าประธานธนาคารกลางยุโรปจะประกาศ
โครงการซื้อพันธบัตรรอบใหม่ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายในวันที่ 6 ก.ย.นี้
เพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมของหลายประเทศในยูโรโซนให้ปรับตัวลง

ขณะสกุลเงินเยนพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่มีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า
เช่น สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์
เนื่องจากสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
จึงทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าอย่างเงินเยน

มูดี้ส์ประกาศปรับแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) เป็นเชิงลบ
แต่ยังคงอันดับไว้ที่ Aaa และเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
หากเยอรมนี, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ ถูกมูดี้ส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือ
เนื่องจากจากทั้ง 4 ประเทศ มียอดรวมจ่ายเงินสมทบคิดเป็น 45% ของรายได้งบประมาณของอียู
ซึ่งการปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวจะเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ต้องเปิดเผยรายละเอียดของโครงการซื้อพันธบัตรใหม่
เพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีหนี้สินจำนวนมากในการประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้

แคว้นอันดาลูเซียของสเปนขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล 1 พันล้านยูโร
ตามแคว้นอื่นที่ขอแล้วก่อนหน้า ได้แก่ บาเลนเซีย (4.5 พันล้านยูโร), มูร์เซีย (0.3 พันล้านยูโร)
และคาตาโลเนีย (5 พันล้านยูโร) ทั้งนี้ รัฐบาลสเปนได้จัดตั้งกองทุนสาธารณะวงเงิน 1.8 หมื่นล้านยูโร
เพื่อให้ความช่วยเหลือ 17 แคว้น ที่ประสบภาวะหนี้สูงแล้ว
ทว่ารัฐบาลยังไม่ได้ประกาศเงื่อนไขการอนุมัติเงินกู้จากกองทุนสาธารณะดังกล่าว
ในขณะที่เศรษฐกิจสเปนหดตัว 3 ไตรมาสติดต่อกัน
เนื่องจากผลพวงของภาวะฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์อันมีสาเหตุมาจากวิกฤตการเงินในยุโรป


ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 11.30 น. ประกาศอัตราดอกเบี้ยออสเตรเลีย
• เวลา 14.00 น. ตัวเลขว่างงานสเปน (Spanish Unemployment Change)
• เวลา 15.30 น. ตัวเลข Construction PMI ของอังกฤษ
• เวลา 21.00 น. ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ (ISM Manufacturing PMI)

ตลาดยังคงจับตามองตัวเลขดัชนี​การผลิตของสหรัฐฯ ​ซึ่งสถาบันจัด​การอุปทาน (ISM) จะประกาศ​ในคืนนี้
​เพื่อดูสัญญาณที่​เกี่ยวกับข้อมูลด้าน​การจ้างงานของ​เดือน ส.ค.
หากปัจจัยตัวเลขชี้วัดออกมาย่ำ​แย่ อาจนำ​ไปสู่กระ​แสคาด​การณ์ว่าตัว​เลข​การจ้างงาน​ในวันศุกร์นี้จะอ่อน​แรง

.

3 กันยายน 2555

ข่าวฟอเร็กซ์ 3 ก.ย.

สกุลเงินยูโรและสกุลเงินของประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย
โดยดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงแตะระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์
ขณะที่ตลาดผิดหวังกับสัญญาณที่บ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมากขึ้น
แต่ความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
จะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น
ช่วยสกัดแรงลบของสกุลเงินที่มี high-beta อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลีย
"ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงเช้านี้เพราะข้อมูลที่อ่อนแอของจีน
แต่ก็ไม่ได้ร่วงลงอีกเนื่องจากมีการคาดการณ์ใหม่เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3
หลังการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว"
นางแอนเนตต์ บีชเชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยประจำเอเชีย-แปซิฟิกจากทีดีซีเคียวริตีส์กล่าว

เมื่อคืนวันศุกร์...หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดย้ำพร้อมดำเนินมาตรการที่จำเป็น
โดยเฟดยังคงเปิดช่องในการออกมาตรการ QE3 ในระยะถัดไป
เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเติบโตไม่ดีพอโดยเฉพาะในภาคแรงงาน
ทว่านายเบอร์นันเก้ก็ไม่ได้ให้แนวทางที่ชัดเจนต่อเวลาและลักษณะของมาตรการ
ซึ่งทำให้นักลงทุนหันกลับมาให้ความสนใจกับตัวเลขด้านการจ้างงานที่จะรายงานในสัปดาห์นี้
ทั้งยังจะมีผลต่อการคาดการณ์ผลการประชุม FOMC ระหว่าง 12-13 ก.ย. นี้ด้วย
โดยจะเหลือการประชุมของ FED อีก 3 ครั้งในเดือน ก.ย. ต.ค. และ ธ.ค.
ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ของการประกาศนโยบายใหม่ของ FED จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมมากกว่า
ฉะนั้นจึงอาจจะยังไม่เห็นการทำ QE3 ของ FED ในเดือนนี้

ทั้งนักลงทุนยังต้องติดตามข้อสรุปแนวทางการซื้อพันธบัตรของ ECB ซึ่งยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่
ทำให้ในสัปดาห์นี้ความสนใจของนักลงทุนจะเปลี่ยนไปที่ยุโรป ซึ่งจะมีการประชุม ECB ในวันที่ 6 ก.ย.
และน่าจะมีการประกาศมาตรการซื้อพันธบัตรอายุสั้นๆ ของประเทศที่มีปัญหาออกมาก่อน
โดยมาตรการรับมือวิกฤติของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะหารือในการประชุม 6 ก.ย.
ตลอดจนแผนการกำกับดูแลภาคธนาคารนั้น
โดยอีซีบีจะเข้าดูแลธนาคารที่ใช้เงินจากกองทุน ESM ตั้งแต่ ม.ค. 56 และกำกับธนาคารทุกแห่งในปี 2557
 ซึ่งคณะกรรมการยุโรป (EC) เตรียมเสนอรายละเอียดในวันที่ 12 ก.ย. นี้

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา
ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร
และอ่อนค่าระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยน
หลังนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า
การว่างงานเป็นความวิตกอย่างมาก
ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) รายงานว่า
อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือน ส.ค.
ซึ่งปัจจัยนี้อาจส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมกำหนดนโยบายในวันพฤหัสบดีที่ 6 ก.ย. ก็มีความเป็นไปได้
สำนักงานสถิติระบุอีกว่า ราคาผู้บริโภคในประเทศสมาชิกยูโรโซน 17 ประเทศ
พุ่งขึ้น 2.6 % เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือน ส.ค.

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้
• เวลา 14.15 น. ดัชนีภาคการผลิตสเปน Spanish Manufacturing PMI
• เวลา 14.45 น. ดัชนีภาคการผลิตอิตาลี Italian Manufacturing PMI
• เวลา 15.00 น. ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซน Final Manufacturing PMI

.