30 พฤศจิกายน 2555

ลุยต่อบ่ยั่นกับ Forex

หลังจากโดนสอยร่วงพอร์ตเงินปลอมหายแบบน่าเจ็บปวด
เป็นอีกบทเรียนในหลายๆ กรณีที่เกิดซ้ำเกิดซาก ทว่าดันไม่จดไม่จำ
ประมาท เลินเล่อ ถือดีอวดดี คิดเองเออเอง บ้าดีเดือด และไม่เจียมตัว
กำไรที่เพียรสะสมมาสามเดือนก็อันตรธานวับไปแบบม้วนเดียวจบดื้อๆ

ไม่เป็นไรๆ ได้แต่บอกตัวเองว่า...ไม่เป็นไร ยุบหนอพองหนอ
ก็แหม...เทรดเดโมนี่นะ ทว่าก็ต้องคิดและทบทวนวิธีการเทรดของตัวเองเช่นกัน
ค้นหาจุดบกพร่อง อารมณ์ที่ยังไม่นิ่ง ไหนจะความบ้าที่ยากควบคุมอีก
ฟอเร็กซ์ๆๆ ใครว่าง่าย? 
Forex ใครคิดว่าคือแหล่งแสวงกำไรแสนสบาย?
เมื่อได้ลงสนามแล้วจะรู้...ร้อยพันคำบอกเล่ามิเท่าได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง
ยิ่งกับภาวะอารมณ์และจิตใจของมนุษย์ ทั้งความโลภ ทั้งความลวง
ทั้งทุนทรัพย์ ทั้งความทุ่มเท และทั้งเทคนิคการเทรด
โอ้! สนามรบตลาดเงินตรานั้นช่างน่าพิสมัยโดยแท้...


เอาใหม่...ลุยต่อบ่ยั่น...ฝึกปรือและค้นหาไปเรื่อยๆ สักวันล่ะน่าคงค้นพบแนวทางของตัวเอง
แล้วในวันที่ 22 พฤศจิกายน ข้าน้อยก็ร้องเรียกเงินปลอมมาลองเทรดใหม่สัก 5,000$
มาดหมายพลิกพลิ้วกระบวนท่าและปรับอารมณ์อีกครั้ง ครานี้จะลองฝึกสภาวะจิตใจไปด้วย
พยายามจะใจเย็นๆ มือไม้ห้ามซุกซน ต้องรู้จักอดกลั้น อดทน แล้วก็ลดความอวดโอ่ลงบ้าง

เปิดกราฟคู่เงินมา 9 คู่เลย ไล่ดูไทม์เฟรม H1 อัพขึ้นไป...เน้นกราฟ H4 กับ Day เป็นหลัก
อาจแวบดูกราฟ Week บ้าง ส่วนอินดิเคเตอร์ก็ยังใช้แบบเดิมๆ ที่คุ้นๆ ตา

Forex แบบบ้านๆ และเม่าๆ

ค่อยๆ เก็บกำไรทีละนิดละน้อย...รุกบ้าง ถอยบ้าง กลัวบ้าง อะไรบ้าง
มองกราฟบ่อยๆ ก็กดดัน ละล้าละลัง เห็นราคาเคลื่อนแล้วก็อยู่ไม่สุข กุกๆ กักๆ อย่างจะเข้าตลาด
ช่วงนี้...ก็พยายามฝึกการเปิดออเดอร์ การลง Lot ที่สมดุลกับมาร์จิน
"ความไม่แน่นอนมีอยู่เสมอในตลาดค่าเงินนี้" เงินทองไม่ใช่ใบไม้จะเด็ดได้ดั่งใจปรารถนา
หลายๆ ครั้ง กราฟทำให้เราเจ็บปวด บ่อยครั้งการเคลื่อนไหวของราคาทำให้เราเจ็บใจ

ท่านใดอยากเทรดเงินจริงก็ตามสบายนะครับ แต่ผมตอนนี้คง "ไม่"
ด้วยปัจจัยส่วนตัวหลายๆ อย่าง ลงเงินจริงไม่แคล้วเป็นเม่าโดนเผาและสูญเสียเงินฟรีๆ แหงๆ
อีกทั้งยังอ่อนประสบการณ์ วิชาเทรดฟอเร็กซ์ยังไม่แข็งกล้า และยังต้องค้นหาแนวทางของตัวเองต่อไป
ทว่าไม่ว่าจะใช้เวลานานสักเท่าใด ผมรอได้เสมอ ไม่รีบ ไม่เร่ง และไม่อยากทุรนทุราย
มีบทเรียนมาแล้ว เสียเงินจริงมาแล้ว ทั้งสมาธิ อารมณ์ และจิตใจก็ยังสามวันดีสี่วันบ้าอีก
เห็นทีคงต้องฝึกวรยุทธ์เทรด Forex กันยาวๆ ทำความคุ้นเคยให้มากๆ
ที่สำคัญ...เทรดกี่ทีกี่รอบก็ไม่ชอบตั้ง SL สักทีนี่สิ ช่างแก้ยากจริงๆ

 Forex - 30 พฤศจิกายน 2555
พยายามบอกตัวเองว่า...ใจเย็นๆ
ชีวิตมีโชคมีเคราะห์ มีขึ้นมีลงฉันใด กราฟฟอเร็กซ์ก็มีขึ้นมีลงฉันนั้นแล--

22 พฤศจิกายน 2555

สุดท้ายก็อีหรอบเดิม...

และแล้วก็ไปไม่รอด Sell EJ กับ UJ แบบเมามันส์ในอารมณ์ เห็นราคาแล้วคันไม้คันมือวุ้ย
เชื่อจริงๆ ว่าตลาดฟอเร็กซ์นั้นโหดร้ายและแปรปรวนผันผวนยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด...
ลองใส่ล็อตหนักๆ เล่นดูบ้าง แล้วก็ใช้สไตล์เดิมๆ เทรดโดยดูแค่ MACD กับ Stoch ที่ H4
พร้อมกับคิดว่าราคาน่าจะวิ่งขึ้นไปได้อีกไม่เท่าไหร่ อย่างน้อยๆ ก็กดดันหรือกิน SL เหล่าขาเซลล์
หรือให้ขาบายคายของออกมาบ้าง ก่อนที่จะโดนทุบราคาร่วงผล็อย แต่เปล่าเลย...
ราคายังพุ่งขึ้นทำไฮท์ไปเรื่อยๆ พอดูแท่งเทียนที่ไทม์เฟรม Day แท่งเขียวไต่ระดับขึ้นเป็นขั้นๆ
แถมโหดแบบไม่มีการปรับพักฐานลงมาให้พอผ่อนหายใจได้ปิดกำไรบ้าง

มาตรแม้นจะตั้ง TP ไว้ ทว่ามันก็ไม่ยักปรับราคาลงมาแตะจุมพิตเลย
ยิ่งขึ้นๆ ผมก็ใส่ออเดอร์เซลล์เพิ่ม พลางคิดว่าลงมามีกำไรจะปิดหนีทันที
ก็อย่างว่า...ราคาแบบนี้ มีสักกี่คนจะกล้า buy ล่ะ...
จะว่าเป็นราคาที่น่ากลัวที่สุดและอันตรายที่สุดก็ได้ถ้าจะช้อนซื้อไว้
จริงๆ กราฟราคาในลักษณะวิ่งไปวันเวย์ทางเดียวแบบนี้ก็เจอหลายครั้ง
ทว่าก็ไม่กล้าจะ Follow ตามสักที สัญชาตญาณมักบอกให้เล่นอีกทาง
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ผมผิดพลาดเองทั้งนั้น...และบริหารทุนไม่ดีด้วย


คืออย่างถ้าตั้งใจจะเล่น Sell EJ กับ UJ แล้วรอราคาให้มันขึ้นมาสูงสุดๆ แบบใจเย็นๆ ก็คงจะดีกว่านี้
เสมือนอารมณ์ยังไม่นิ่ง แถมยังโลภด้วย ที่สำคัญผมระห่ำอยากเอาชนะกราฟโดยตัวเองประมาทมาก
และก็ดันเหิมเกริมใส่ Lot แบบจัดหนักและวัดดวงชี้ชะตาซะเลย สุดท้ายก็เลยหมู่ และหมู...เม่า...

ดีที่เป็นบัญชี DEMO ที่ทำให้ได้ทบทวนวิธีเทรดและภาวะอารมณ์ตลาดค่าเงินได้อีกบทเรียน
ราคาที่คนกลัวกันที่สุดอาจคือจุดที่ปลอดภัยที่สุดในการเทรดก็ได้ ทว่าก็คงไม่แน่นอนเสมอไป
เราจะรู้ก็ต่อเมื่อราคามันผ่านไปแล้ว เห็นแล้ว ด้วยไม่มีใครล่วงรู้ราคาแท้จริงล่วงหน้าในอนาคตได้

ที่แน่ๆ ขืนยังเทรดแบบเดิมๆ คิดเองเออเอง และใจร้อนวู่วาม
ที่สุดทั้งกำไรและทุนอาจเรียบราพณาสูร ดังนี้แล...

เรียบร้อยโรงเรียน "ฟอเร็กซ์" อีกแล้ว
สุดท้ายก็อีหรอบเดิม...เม่ายังไงก็ยังคงเป็นยังงั้น...
ต่อให้ทุนมากหรือน้อยก็มีโอกาสเจ็บเจ๊งได้พอๆ กัน ถ้าไม่รู้จักควบคุมและบริหารมาร์จิน
นี่ถ้าเป็นเงินจริง เห็นทีคงจุกจี๊ด เหงื่อตก ใจเต้นตูม และร้องอุทานว่า "ล้างพอร์ตอีกแล้วหรือวะนี่"

ผมก็แชร์ความคิดเห็นตามที่ตัวเองประสบมานะ พอเป็น case เล็กๆ กรณีหนึ่ง

ลองใหม่ๆ ขอทดสอบเงินปลอมอีกสักรอบ (และอาจจะมีรอบต่อไป ^^)
อยาก Sell EJ กับ UJ ดูสิว่ามันจะขึ้นไปได้ถึงไหน...แล้วสกุลเงินเยนพี่ยุ่นจะออกฤทธิ์เมื่อไหร่...
พยายามท่องไว้ๆ...ใจเย็นๆ โยม...

19 พฤศจิกายน 2555

ผมไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ฟอเร็กซ์

ถือเป็นคำแก้ตัวสามัญประจำบล็อกที่ข้าน้อยไม่ได้เข้ามาอัพเดทใดๆ
ไม่ว่าจะพูดคุยเรื่องฟอเร็กซ์ หรือลงข่าวฟอเร็กซ์เหมือนแต่ก่อน
ด้วยช่วงนี้ชีวิตวุ่นวาย (แอบฝันว่าวันหนึ่งคงได้วุ่นไวน์บ้าง) และเจองานเร่งด่วนตลอด
กอปรกับเรื่องการเทรด Forex นั้น แต่ละท่านต้องค้นหาแนวทางของตัวเอง


ผมไม่มีซิกแนล ตีกราฟวิเคราะห์ ตรัสรู้ล่วงหน้า
หรือทำนายได้หรอกว่าค่าเงินไหนจะขึ้นหรือลง...
แหมๆ อยากจินตนาการให้นอสตราดามุส (ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน)
มาเทรดฟอเร็กซ์เหมือนกันว่าจะเป็นเช่นไร
ว่านอสตราดามุสจะบอกแนวโน้มสกุลค่าเงินต่างๆ ได้หรือไม่
ประมาณว่า...วันนี้ EU จะไปทางไหน GU จะขึ้นต่อหรือไม่
หรือ EJ กับ UJ หมดรอบขาขึ้นหรือยัง...
ก็นะ...ใครๆ ก็ต่างวาดฝันถึงกำไรในฟอเร็กซ์กันทั้งนั้น
ทั้งๆ ที่บินเข้าไปก็โดนเผา...ไม่ต่างแมงเม่าบินเข้ากองไฟ


ผมว่า...จะเทรดฟอเร็กซ์ หรือแสวงหากำไรจากตลาดค้าเงินนี่
ต้องใจเย็นมากๆ สงบเข้าไว้ ประมาณใจต้องนิ่งเยี่ยงเสือชีตาร์ หรือหมาป่า หรือไฮยีน่า
ต้องไม่วอกแวก ลนลาน แล้วก็โลภมากมายนัก ทว่าความโลภนี่มันก็ยั่วยวนจริงๆ ซะด้วย
ให้มาพูดแบบนี้ก็อาจฟังดูง่าย ชิวๆ กราฟก็มีแต่ขึ้นหรือลงเท่านั้นเอง จะไปครุ่นคิดกระไรให้มากนัก
ทว่าเมื่อทำสิ่งใดๆ ก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับเงินๆ ทองๆ หัวจิตหัวใจย่อมสะทกสะท้านเป็นธรรมดา
บางทีเหงื่อแตกพลั่กๆ ยิ่งใครที่ชอบเฝ้ามองกราฟบ่อยๆ ชีพจรน่าจะเต้นโครมครามเลยทีเดียว
แล้วยิ่งถ้าพอร์ตเห็น Profit ติดลบ ติดลบ และก็ติดลบมากขึ้นๆ ใจใครมันจะไปทนได้กันเล่า...
ไหนจะอารมณ์และความรู้สึกในขณะนั้นๆ อีก ยิ่งเทรดก็ยิ่งเครียด...ยิ่งตระหนกหวาดหวั่น

แม่ม...ศึกษาทฤษฎีจากเว็บโน้นเว็บนี้มาจนปรุแล้ว ทั้งเข้าบอร์ดนั้นบอร์ดนี้จนเก๋าแล้วอีก
ไหนจะลงทุนเสียเงินเข้าคอร์สอบรม หรือบรรลุตามที่คนสอนประสิทธิ์ประสาทวิชาเทรดให้
ไฉนเทรดไปๆ มาๆ กลับยิ่งเสียวะ อินดี้ก็ดูแล้วนะ ฟิโบก็ตีแล้วด้วย ข่าวก็ตามอ่านเสมอ ฯลฯ บลาๆ...

ในโลกแห่งความเป็นจริงยิ่งกว่าจริง ตลาดฟอเร็กซ์ช่างโหดร้ายนัก 
มันหลอกล่อ เล่นกล หรือซ่อนลวงอะไรไว้หรือเปล่า... หรือเราไม่เหมาะกับตลาดแห่งนี้
เรายึดติดและคร่ำเคร่งกับมันมากไปรึ หรือเราเทรดแหวกแนวกว่าคนอื่นหวา

ลองปิด MT4 แล้วออกไปสังสรรค์ ดูหนัง เดินห้าง กินข้าวนอกบ้าง หรือเลิกสนใจกราฟบ้างสิ
ไม่มั่นใจก็อยู่นอกตลาดไว้ พรวนดินใส่ปุ๋ยในสวนเล็กๆ บ้างก็ได้ ถอยห่างจากตลาดเงินสักชั่วครู่
มีอะไรนอกเหนือกว่าการเก็งกำไรค่าเงินให้ทำมากมาย ให้เวลากับครอบครัวและผองเพื่อนสักนิดใหญ่ๆ
หรือจะไปเล่นน้ำที่ทะเล ไปกางเต็นท์ก่อกองไฟบนภูเขาเพื่อดูดาวระยิบระยับบนฟ้าบ้างก็สุขใจไม่น้อย

ตัวผมนั้นก็หาใช่ผู้หยั่งรู้ฟอเร็กซ์อันใด พยามยามเทรดแบบเรียบราบและง่ายงามที่สุด
ฝึกฝนจิตใจและอารมณ์ตัวเองเข้าไว้...หรือจะมองให้เป็นศิลปะก็ได้

ผลเทรดฟอเร็กซ์แบบเม่าๆ
ทุกคนล้วนมีความโลภติดตัวกันมาทั้งนั้น
ทว่าบางโอกาสก็ปล่อยให้ความโลภได้แสดงบทบาทสักเล็กน้อย
บางจังหวะก็ต้องรีบถอยแล้วกอบเก็บความโลภจ้อยๆ ตุนไว้เป็นกำลังใจ
หรือไม่ก็เปิดออเดอร์แล้ววัดดวงตั้ง TP ไว้ จากนั้นก็ปิดโปรแกรม MT4 และคุยกับสาวๆ ไปพลางๆ
แบบไม่ต้องไปสนใจว่าราคาจะขึ้นหรือลง...เพราะเราต้องมั่นใจในตัวเองเข้าไว้
เพราะยิ่งเฝ้ามองกราฟหรือแท่งเทียน มันเสียวๆ จนอาจทำให้อารมณ์ทางเพศหมดมู้ดได้ง่ายๆ

ที่แน่ๆ ผมเปิด Sell คู่ EJ กับ UJ ไว้...
จะหมู่หรือจ่าอีกสักสองสามวันค่อยมาดูกันนะ...

ขอให้นักเทรดชาวไทยจงโชคดีทุกๆ ท่านครับ


8 พฤศจิกายน 2555

สยามวาระ: วิกฤตเศรษฐกิจโลก-ไทย

ได้ชมรายการ "สยามวาระ"  ซึ่งออกอากาศทางไทยพีบีเอส (Thai PBS) ช่วงหัวค่ำทุกคืนวันพุธ
โดยเฉพาะเรื่อง วิกฤตเศรษฐกิจโลก-ไทย ตอน ๑ น่าสนใจและน่าติดตามอย่างยิ่ง
ซึ่งในตอนที่หนึ่งนี้...จะกล่าวถึงวิกฤตในยุโรปและปัญหาซับไพร์มในสหรัฐฯ

ลองชมกันดูครับ เพราะเป็นรายการที่ดีมากๆ
วิกฤตเศรษฐกิจโลก-ไทย ตอน 1 



ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ที่ย่อโลกและหลอมรวมระบบเศรษฐกิจ
ตลอดทั้งระบบการเงินทั้งโลกเป็น­หนึ่งเดียวกัน
โลกกลับต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจที่ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ ๘๐ ปี
วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในอเมริกาและวิกฤตยูโรโซนกำลังเขย่าให้โลกทั้งใบจนปั่นป่วน

อะไรคือรากเหง้าและต้นตอของวิกฤต วิกฤตครั้งนี้เหมือนหรือต่างจากครั้งก่อนๆ อย่างไร?
วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ส่งผลกระทบเศรษฐกิจและชีวิตคนไทยอย่างไร?
สังคมเศรษฐกิจไทยพร้อมรับมือกับโลกที่ผันผวนแปรนแปรมากแค่ไหน?

***

ชมกันต่อให้เต็มๆ เพื่อเท่าทัน เตรียมความพร้อม และรู้จักที่จะพอเพียง

วิกฤตเศรษฐกิจโลก-ไทย ตอน 2



ในยุคที่เศรษฐกิจโลกผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกัน
เศรษฐกิจไทยคงไม่อาจรอดพ้นจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงลุกลามในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
คำถามสำคัญก็คือ เราพร้อมรับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลกในวันนี้และวันหน้ามากน้อยแค่ไหน
ปกป้อง จันวิทย์ จะพาท่านผู้ชมย้อนกลับไปสำรวจบทเรียนจากอดีต เพื่อตอบคำถามเรื่องปัจจุบันและอนาคต
15 ปีผ่านไป สังคมเศรษฐกิจไทยเรียนรู้บทเรียนอะไรจาก "วิกฤตต้มยำกุ้ง 2540"
วิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
สังคมเศรษฐกิจไทยปรับตัวและเรียนรู้ไปมากเพียงไร
อะไรคือโอกาส และความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยก้าวต่อไป...

สุดท้าย...ขอบคุณรายการดีๆ เปี่ยมสาระอย่าง "สยามวาระ" มา ณ ที่นี้ด้วย

สยามวาระ
รายการสารคดีเชิงวิเคราะห์ ที่อธิบายปรากฏการณ์ของสังคมไทยในบริบทโลก 
ที่จะหยิบยกประเด็นทางสังคมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม 
ที่สังคมให้ความสนใจ หรือเป็นวาระของสังคม มาวิเคราะห์อย่างเจาะลึก
และนำเสนออย่างเป็นระบบ รอบด้าน ลึกซึ้ง และสร้างความรู้ความเข้าใจของสังคมต่อประเด็นต่างๆ
โดยใช้ข้อมูลที่มีฐานงานวิจัยสนับสนุนเป็นเครื่องมือหลัก
โดย 4 พิธีกรที่นำความรู้ ความถนัดของแต่ละคน มาถ่ายทอดในบริบทที่แตกต่างกัน
ทำให้เรื่องราวที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย  

4 พิธีกรรายการ "สยามวาระ"

เวลาออกอากาศ : 
ทุกวันพุธ เวลา 20.25 – 21.15 น.
ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 03.00 - 03.55 น. (Rerun)

6 พฤศจิกายน 2555

สนามค้าเงินของนักเก็งกำไรรายวัน

อูยยยย...ได้เจอบทความดีๆ บล็อกดีๆ เกี่ยวกับ FOREX เข้าแล้ว
จึงใคร่อยากจะบอกกล่าวและแนะนำกัน เหมือนได้ไปกินอาหารร้านอร่อยๆ ต้องรีบมาบอกต่อ
แถมอ่านง่าย ภาษาไทยแทบพิมพ์ไม่ผิด อ่านแล้วได้อารมณ์ มุมมอง และกำลังใจเพิ่มขึ้น
ถอยห่างจาก Signal หลบเรื่องการวิเคราะห์กราฟ การใช้อินดิเคเตอร์ หรือข่าวสารบ้าง
ฉะนั้น...ผมจึงขอก็อปบทความสักบทหนึ่งจากบล็อกที่ว่านี้มาประดับในบล็อกผมด้วยความอิ่มใจ

***
สนามค้าเงินของนักเก็งกำไรรายวัน

สนามค้าเงินของนักเก็งกำไรรายวัน

การเก็งกำไรในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนหรือตลาด forex ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
แต่ถ้าตลาดเปลี่ยนเป็นตลาดหมีล่ะ อะไรจะเกิดขึ้นกับผู้ที่เข้ามาดำรงชีพในฐานะเทรดเดอร์ฟูลไทม์?
นั่นเป็นปัญหาของพวกที่คิดว่าตลาดแห่งนี้สามารถทำเงินได้เฉพาะในตลาดกระทิงเท่านั้น
พวกเขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว ตราบใดที่ตลาดยังมีแรงขับเคลื่อนอยู่ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง
นักเก็งกำไรในตลาดนี้ก็ยังสามารถทำเงินจากมันได้!!!!!


ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ไม่เพียงแต่เฉพาะสถาบันการเงิน หรือนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้นที่สามารถเล่นเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนรายวันได้ แต่เก็งกำไรที่อยู่ที่บ้าน หรือที่ทำงาน
หรือแม้กระทั่งห้างสรรพสินค้าก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
ผ่านคอมพิวเตอร์ notebook tablet ไปจนถึง smart phone เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
เปิดโปรแกรมซื้อขาย realtime ก็สามารถเข้าสู่สนามแข่งขันการค้าเงิน
เพื่อต่อสู้แย่งชิงผลกำไรจากกันได้อย่างง่ายดาย

สนามค้าเงินแห่งนี้มันก็เหมือนสนามแข่งขันกีฬาที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเข้ามาประลองความสามารถ 
ชิงไหวชิงพริบเพื่อเป็นผู้ชนะ และแน่นอนรางวัลของผู้ชนะในสนามค้าเงินก็คือผลกำไรก้อนโต 
แต่สนามค้าเงินนั้นมันไม่เหมือนสนามแข่งฟุตบอล หรือสนามแข่งกีฬาประเภททั่วๆ ไป
เพราะสนามค้าเงินไม่มีการแบ่งระดับความสามารถ 

ไม่ต้องจัดมาตรฐานความสามารถของผู้เข้าแข่งขันเป็นระดับชั้น เป็น division
เพราะฉะนั้นในสนามแห่งนี้ คุณไม่สามารถร้องขอความยุติธรรม จำไว้เลยว่า 

ไม่ว่าจะเป็นนักเก็งกำไรชั้นเซียน นักลงทุนชั้นยอด นักลงทุนสถาบันชั้นแนวหน้า 
หรือขาใหญ่ที่ฝึกหัดมาเพื่อฆ่ารายย่อย รวมถึงคุณ และมือสมัครเล่นทั้งหลาย 
ล้วนลงแข่งในสนามเดียวกันผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์

การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
สังเกตจากปริมาณซื้อขายและการแกว่งตัวของราคาที่นับวันจะทวีความกว้างขึ้นเรื่อยๆ
สารพัดเล่ห์เหลี่ยมและความสามารถที่ทุกคนต่างงัดออกใช้
เพื่อแย่งชิงผลกำไรซึ่งกันและกันมีให้เห็นทุกนาทีบนหน้าจอคอมพิวเตอร์

แต่ก็นั่นแหละ.....นักลงทุนรายย่อยที่ส่วนใหญ่จะเป็นมือสมัครเล่น ย่อมหลักหนีความจริงไปไม่พ้น
เมื่อมีการแข่งขันก็ต้องย่อมมีผู้แพ้ผู้ชนะ ผู้ที่แข็งแกร่งย่อมชนะผู้ที่อ่อนแอ ผู้ที่ฉลาดย่อมชนะผู้ที่รู้น้อยกว่า
ทำให้การเก็งกำไรในตลาดค่าเงินเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก
สำหรับผู้ที่อ่อนแอทางด้านความรู้ ประสบการณ์ อารมณ์และจิตใจ
ดังนั้น ผู้ที่คิดว่าตนเองยังมีความรู้ทางด้านนี้ไม่มากพอ 
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเข้ามาในตลาด forex

และถึงแม้เทคโนโลยี นับวันจะยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่นักเก็งกำไร
รายย่อยสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารในไวพอกับๆ นักลงทุนสถาบันหรือนักลงทุนรายใหญ่
พวกเรารู้มากมายเกี่ยวกับตลาด ทำให้เราเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย จนบางครั้งอาจพูดได้ว่า
คุณเห็นมากเกินไป บริโภคข้อมูลมากเกินไป การเห็นคำสั่งซื้อขายในจอคอมฯ ทุกคำสั่ง
การเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ นั่นทำให้คุณสูญเสียภาพรวมของตลาดไป
ดังนั้น พัฒนาการของระบบเทคโนโลยีที่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้
คุณจึงไม่สามารถรับประกันผลกำไรของคุณได้ มันไม่สามารถเข้ามาทดแทนความรู้
ความชำนาญและประสบการณ์ในการเทรด ซึ่งคุณจะต้องใช้เวลาทุ่มเทในการเรียนรู้มันเองเท่านั้น

ซึ่งแน่นอนว่าจากสถิติที่ผ่านมา พบว่านักเก็งกำไรในตลาดค่าเงินส่วนใหญ่จะขาดทุน
มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถมีกำไรเป็นกอบเป็นกำ ด้วยเหตุนี้ ตลาดค่าเงินจึงถูกมองว่า
เป็นแหล่งการพนันจากคนส่วนใหญ่เพราะนักเก็งกำไรที่ล้มเหลวมักจะกล่าวโทษตลาด
หรือไม่ก็อ้างเหตุผลต่างๆ นานาประโคมข่าวไปทั่ว เพื่อยืนยันว่าที่ตนขาดทุนนั้นไม่ใช่เพราะตัวของเขาเอง
พวกเขาไม่ยอมรับว่าพวกเขาไม่ได้ศึกษาให้มากพอ แต่เป็นเพราะโน่น นี่ นั่น......
บางคนถึงขนาดกล่าวหาว่าพวกที่กำไรนั้นโกหก @#%#%$

แต่ยังไงสิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ยังมีนักเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จอยู่จริง 
ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากนักเก็งกำไรส่วนใหญ่ที่ล้มเหลว ก็คือ
แม้พวกเขาจะเริ่มต้นด้วยการขาดทุนและล้มเหลวมาไม่ต่างจากนักลงทุนทั่วไป 

แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ ไม่โทษฟ้าดิน ไม่ยกแม่น้ำทั้ง 5 มาพูดว่าทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของตัวเอง 
พวกเขาจะยอมรับว่าสิ่งที่ผิดพลาดทั้งหมด ล้วนเกิดจากตัวเขาเอง เพราะเขายังอ่อนประสบการณ์ 
เขายังรู้น้อยมากในตลาดที่กว้างใหญ่นี้ พวกเขาจะนำเอาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตมาศึกษาอย่างจริงจัง
พยายามแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นให้หมดไป พยายามเรียนรู้เทคนิคของผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน 

แล้วปรับปรุงให้เหมาะกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุด ก็คงไม่ต่างจากนักกีฬามืออาชีพ คือ 
พวกเขาต้อง ซ้อม ซ้อม และก็ซ้อมเท่านั้น พวกเขาไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้!!!!!

อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ไม่ใช่ว่าทุกคนเรียนรู้แล้วจะประสบความสำเร็จ
เปรียบเสมือนการเรียนในห้องเรียนที่นักเรียนทุกคนเรียนจากหนังสือเล่มเดียวกัน
แต่เวลาสอบก็จะต้องมีนักเรียนสอบได้ที่หนึ่งและอีกคนได้ที่โหล่ของชั้น
แต่อย่างน้อย การได้เรียนรู้มันก็คงยังดีกว่าการยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเรียน จริงไหม!!!!

และสุดท้าย มันก็คงขึ้นอยู่กับความพยายาม ความอดทน และจิตใจที่แข็งแกร่งของคุณเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า
คุณจะเป็นได้แค่นักเก็งกำไรมือสมัครเล่น หรือนักเก็งกำไรอาชีพที่ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำเช่นเดียวกับนักกีฬาอาชีพ
อย่างไทเกอร์ วู้ด หรือ เดวิด เบ็คแฮม ทั้งหมด มันก็อยู่ที่ตัวคุณ!!!

ขอให้ทุกคนโชคดี
2Btrader

***

เป็นเช่นไรบ้าง...บทความนี้คงพอจุดประกายอะไรในตัวนักเทรดชาวไทยกันได้ไม่มากก็น้อย
ผมชื่นชมผู้เขียนบล็อกนี้จากใจจริง เป็นการนำเสนอเรื่องฟอเร็กซ์อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจยิ่ง
ฉะนั้น เหล่านักเทรดชาวไทยไม่ควรพลาดที่แวะไปอ่านบล็อกนี้ คือ
http://2btrader.blogspot.com

⊙▂⊙

2 พฤศจิกายน 2555

3 เดือน เทรดได้ 3,500 ดอลล์ (ต่อ)

กลับมาเพื่อเขียนต่อบทความเม่านี้ให้จบตามที่บอกกล่าวไว้...
ถือเป็นการพูดคุยเรื่องฟอเร็กซ์แบบกันเอง ตามประสาคนไทยด้วยกัน
จากบทความก่อนหน้า 3 เดือน เทรดได้ 3,500 ดอลล์ ที่ค้างคาไว้--

ผมจึงโละและละบางทฤษฎีทิ้งบ้าง ลืม Indicato บางตัวบ้าง เลิกอ่านความคิดเห็นในเว็บบอร์ด
จากนั้นผมก็...ยังเทรดต่อไป แต่เป็นมาเล่นบัญชีเดโมแทน เพื่อลองผิดลองถูกจิปาถะ
เผื่อจะเข้าถึงวิถีการเทรดขั้นเทพบ้าง (อิๆ) จริงๆ คือผมอยากลองทฤษฎีไรบางอย่างนะ
จะว่าเป็นทฤษฎีทีเดียวก็ไม่ใช่...เอาเป็นว่าผมอยากหาคำตอบจากข้อสงสัยในตลาดฟอเร็กซ์มากกว่า


ขอย้อนมาเรื่องการ "ล้างพอร์ต" ของผม 3 รอบก่อนว่า
จริงๆ แล้วมันเสียเงินมากกว่านั้น เพราะแต่ละรอบนั้น
ผมมีการเติมเงินเข้าไปในโบรกเกอร์เพื่อรักษาพอร์ต เยียวยามาร์จิ้นไว้
เติมไปหลายครั้งพอควร ตั้งแต่ 30-60$ ทว่าก็ไม่รอด
โดนเชือดเดี้ยงก่อนที่ราคาจะกลับมา...
กล่าวง่ายๆ ว่าถ้าไม่โลภ ตั้ง SL บ้าง ตั้ง trailing stop บ้าง
ยอมตัดขาดทุนเองบ้าง หรือรู้จักแก้ไขสถานการณ์ ใจเย็น
เล่นรอจังหวะ พอร์ตก็คงยังอยู่และอาจโต...

ผมเชื่อว่า...การเทรดฟอเร็กซ์ (Forex) ต้องทุ่มเทเวลาอย่างมหาศาล มีความตั้งใจจริง
ต้องอ่าน คิด หาจุดบกพร่อง และสร้างกลยุทธ์หรือเทคนิคการเทรดเป็นของตัวเอง
มีการวิเคราะห์ปัจจัยทางพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคเพื่อนำมาใช้ด้วยกัน
การเทรดฟอร์เร็กซ์ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่งั้นคงมีคนรวยกันอื้อ แล้วใครจะเป็นฝ่ายเสียกันล่ะ?
แม้นการที่เราเทรดเสีย พอร์ตหาย นั่นไม่ใช่ว่ามีคนโกงเรา หรือมีใครบางคนหลอกลวงเงินจากเรา
แต่ความจริงแล้วที่เราเสียเงินนั้นมันเป็นเพราะตัวเราเอง เราล้มเหลวในการเทรดเอง

แล้วใน วันที่ 23 กรกฎาคม 2555 ผมก็ตัดสินใจสู้กับตลาดค้าเงินต่อด้วยบัญชีเดโม
โดยขอจำนวนเงินเริ่มต้น 10,000$ ซะเลย ทำนองขอสวมมาดนักเทรดระดับกลางๆ ดูสักนิด
ครั้นจะเรียกมาลองแค่ 100$ หรือ 1,000$ แบบนั้นก็ยังเป็นแค่รายเล็ก รายย่อย หรือเม่านะสิ
ผมอยากรู้ว่ารายใหญ่ ขาใหญ่ พวกมีเงินเยอะๆ หนาๆ นั้น เวลาเทรดจะเป็นเช่นไร
แน่นอนว่ามีเงินเยอะย่อมล้างพอร์ตยาก ติดลบก็สามารถถือสู้ได้แบบหายใจสะดวก
ไหนๆ แล้วก็ขอวางมาดมีฟอร์มเสี่ยในบัญชีเงินปลอมบ้าง
เงิน 10,000$ คิดเป็นเงินไทยตัวเลขกลมๆ ก็ตีว่าประมาณ 300,000 บาท ละกัน

บัญชี Demo
เมื่อเปิดปุ๊บ โดยมิรอช้าให้ยืดยาด ผมก็เปิดออเดอร์เทรดปั๊บเลยในวันนั้น...
ก็เล่นมาเรื่อยๆ พร้อมกับอัพเดทบล็อกนี้ไปด้วย พยายามตามอ่านข่าวสารทางเศรษฐกิจทั่วโลก
โดยเฉพาะคู่เงินที่เทรด แต่ก็ไม่ลืมส่องๆ มองๆ อินดิเคเตอร์ที่เลือกใช้

ผมบอกตรงๆ เลยว่า ไทม์เฟรม M5 M15 หรือ M30 เหล่านี้ ผมไม่มองเลย
ไม่เอามาดูวิเคราะห์ในการเปิดออเดอร์ จะพินิจก็แค่โฟกัสเพื่อหาราคาเปิดหรือปิดเท่านั้น
แบบสัญญาณหลอกมันนัว โอกาสพลาดมีสูง ทั้ง TF เล็กๆ ผมไม่แม่นซะด้วย (ปกติก็ไม่แม่นสัก TF)

จากกรกฎาคมจนมาถึงตุลาคม...
ผมก็เทรดมาเรื่อย เทรดฟอเร็กซ์แบบไม่ค่อยคิดมากเหมือนเงินจริง
แรกๆ ค่อนไปทางขี้เกียจด้วยซ้ำ ดูอินดี้ผ่านๆ พยายามฝึกมองกราฟเปล่า
ชอบมอง Profit มากกว่า ชอบเบิลล็อต และก็ยังนิสัยเดิมๆ ไม่ชอบตั้ง SL

วันนี้ 2 พฤศจิกายน 2555 ผมก็ตัดสินใจปิดทุกออเดอร์
อยากปล่อยวาง เคลียร์กราฟ และหลบ ข่าวนอน-ฟาร์ม ของสหรัฐฯ ในคืนนี้...
เพื่อไปเริ่มต้นใหม่ในวันจันทร์ หรือรอข่าวผ่านไปก่อน ค่อยวิเคราะห์อีกที

เทรดเงินจริงได้แบบนี้ก็แฮปปี้สิ
สรุป 3 เดือน เทรดเงินปลอมได้มา 3,915$ แต่เบิกเป็นเงินจริงไม่ได้ (555)
ทว่าเวลาที่ผ่านมาสามเดือนนั้น ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้ฝึกจิตใจ รู้จักปล่อยวาง
เห็นโอกาสก็รีบฉวย ใส่ lot ให้หนัก รู้การรอ กำไรแล้วก็เผ่นบ้าง หรือตัดออเดอร์ติดลบทิ้งบ้าง

ขอให้นักเทรดชาวไทยสู้ๆ หาแนวทางการเทรดของตัวเองให้เจอ...

สามารถชมดูบัญชี Demo นี้ที่ Myfxbook/dream-fx